เที่ยวเปรู ดินแดนแห่งเทือกเขาแอนดีส ต้นกำเนิดอาณาจักรอินคาสุดยิ่งใหญ่ และอารยธรรม Caral อันเก่าแก่ พร้อมทั้งธรรมชาติสุดอัศจรรย์และเร้นลับ ที่ครั้งหนึ่งต้องได้ไปสัมผัสกันสักครั้ง
1. เมืองโบราณมาชูปิกชู
เมืองโบราณมาชูปิกชู ดินแดนแห่งอาณาจักรอินคาในอดีต ตั้งอยู่บนภูเขาสูงประมาณ 2,430 เมตร ในแนวเทือกเขาแอนดีส ซึ่งสามารถมองเห็นลุ่มแม่น้ำแอมะซอน (Amazon basin) ได้อย่างสวยงาม นอกจากจะมีจุดยุทธศาสตร์ที่โดดเด่นแล้ว รูปแบบการวางผังเมืองยังคงมีเอกลักษณ์อีกด้วย โดยสร้างบ้านเรือนโดยใช้หินที่มั่งคงแข็งแรง ลดหลั่นกันลงมาตามแนวเนินเขา และมีไร่นา แปลงพืชผักของชาวบ้านล้อมอยู่ด้านนอก มีการวางระบบชลประทานอย่างดี ทำให้ชาวเมืองมีน้ำกินน้ำใช้ตลอดทั้งปี หากเรามองจากที่พื้นดินจะไม่สามารถมองเห็นเมืองโบราณนี้ได้เลย จึงเสมือนกับว่าเป็นดินแดนอันลี้ลับ ความมหัศจรรย์ของมาชูปิกชูจึงได้รับการจดทะเบียนให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกเมื่อปี ค.ศ. 1983
2. วิหารกุสโก (Cusco Cathedral)
เมืองกุสโก เมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางแห่งอาณาจักรอินคา ที่ยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของอาณาจักรที่เคยรุ่งเรืองไว้ทั่วเมือง โดยเฉพาะวิหารกุสโก บริเวณจัตุรัสอาร์มาส (Plaza de Armas) ซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของชาวเมืองกุสโกและจุดนัดพบที่สำคัญของนักท่องเที่ยว ที่ชาวอินคาถือว่าเป็นหัวใจของเสือพูมา (ถ้ามองจากมุมสูงจะเห็นเมืองกุสโกเป็นรูปเสือพูมา) วิหารกุสโกครั้งหนึ่งเคยเป็นที่พำนักของเจ้าผู้ครองอาณาจักรอินคา ที่นี่จึงมีสถาปัตยกรรมที่สวยงามโดดเด่น มีลักษณะเป็นศิลปะแบบโกธิค และเรเนอซองส์ สร้างด้วยหินแข็งแรงมั่นคง ยามที่แสงแดดส่องจะมีสีสวยงาม
3. หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ (Sacred Valley)
หุบเขาศักดิ์สิทธิ์ เป็นพื้นที่ดั้งเดิมของชาวอินคาเป็นพื้นที่ราบและเทือกเขา ซึ่งมีเทือกเขาแอนดีสเป็นแนวเทือกเขาที่สำคัญ มีพื้นที่กว้างใหญ่ รวมไปถึงเมืองกุสโก, เมืองปิซาค (Pisac), เมือง Ollantaytambo, เมือง Chinchero และมาชูปิกชูด้วย โดยในพื้นที่หุบเขาแห่งนี้จะเต็มไปด้วยวัฒนธรรมของชาวอินดา แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตเกษตรกรรม และความเป็นอยู่ที่เรียบง่ายตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน ชาวบ้านยังคงรักษาตัวตนของตัวเองไว้ได้อย่างดีเยี่ยม
4. ตลาดปิซาค (Pisac Market)
ตลาดท้องถิ่นสุดโด่งดังของประเทศเปรู ตั้งอยู่ที่เมืองปิซาค ไม่ไกลจากเมืองกุสโก ที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าหัตถกรรมและงานฝีมือของชาวบ้าน ซึ่งเป็นสินค้าที่ทำขึ้นอย่างพิถีพิถัน และมีเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่มีราคาย่อมเยา มีให้เลือกมากมายหลากหลายแบบ อีกทั้งยังมีพืชผักท้องถิ่นมาขายในราคาถูกอีกด้วย ที่สำคัญเราจะเห็นชาวบ้านแต่งตัวด้วยผ้าพื้นเมือง ใส่กระโปรงลวดลายงดงาม ถักเปียเรียบร้อย เป็นความงดงามที่หาชมไม่ได้ที่ไหนแน่นอน
5. ทะเลสาบติติกากา (Lake Titicaca)
ตั้งอยู่ระหว่างพรมแดนประเทศเปรูและประเทศโบลิเวีย เป็นทะเลสาบที่สำคัญของแนวเทือกเขาแอนดีส สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 3,800 เมตร ทะเลสาบแห่งนี้หล่อเลี้ยงชาวเปรูเรื่อยมา และยังคงหลงเหลือกลิ่นอายของวัฒนธรรมอินคาให้เห็นอยู่มากมาย ในทะเลสาบก็มีเกาะเล็กเกาะน้อย ให้ได้นั่งเรือไปเที่ยวชมแบบชิล ๆ อีกด้วย
6. เกาะอูรอส (Uros Islands)
เป็นอีกหนึ่งเกาะที่สำคัญในทะเลสาบติติกากา แต่สิ่งที่ทำให้เกาะอูรอสโดดเด่นกว่าเกาะไหน ๆ ในโลกก็คือ เป็นเกาะลอยน้ำที่สร้างขึ้นจากต้นกก โดยนำต้นกกมามัดรวมกันให้เป็นแพขนาดใหญ่ และยังนำมาสร้างเป็นบ้านและเรืออันสวยงามอีกด้วย โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนเกาะแห่งนี้ก็จะใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย ผู้ชายออกไปทำงานหาปลาข้างบอกบ้าน ผู้หญิงนั่งเย็บปักถักร้อย ทำกับข้าว ดูแลลูก ๆ อยู่ที่บ้าน และเมื่อมีนักท่องเที่ยวมากขึ้น พวกเธอก็ยังต้องต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย
7. โบสถ์และอารามซานฟรานซิสโก (Monastery of San Francisco)
ตั้งอยู่บริเวณศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองลิมา (Historic Centre of Lima) สร้างขึ้นตั้งแต่ในช่วงศตวรรษที่ 17 ผสมผสานสไตล์โคโรเนียลและบาโรก ตัวอาคารมีสีเหลืองโดดเด่น มีทั้งโบสถ์ อาราม (Convent) และสุสาน (Catacombs) ที่นี่ได้ถูกจดบันทึกให้เป็นมรดกโลกร่วมกับสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ในบริเวณศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของเมืองลิมาในปี ค.ศ. 1991
8. ซัคเซวามาน (Sacsaywaman)
ป้อมปราการอันเก่าแก่ของเมืองกุสโก ตั้งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก โดยมีการสร้างกำแพงเมืองด้วยหินก้อนใหญ่มหึมาตามแบบฉบับของชาวอินคา โดยจากซัคเซวามานจะมาสามารถมองเห็นเมืองกุสโกทั้งเมืองได้อย่างสวยงาม เป็นจุดชมวิวที่ไม่ควรพลาดเลยทีเดียว และชาวอินคายังกล่าวกันอีกว่าบริเวณนี้นี่แหละที่เป็นหัวของเสือพูมา
9. วิหารพระอาทิตย์ (Qurikancha)
ตั้งอยู่ที่เมืองกุสโก ชาวอินคาดั้งเดิมจะนับถือพระอาทิตย์ค่อนข้างมาก วิหารแห่งนี้จะมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า Inti Kancha (หมายถึงบ้านของดวงอาทิตย์) จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อชาวอินคา ผนังและพื้นบางส่วนจะถูกปกคลุมไปด้วยแผ่นทองคำ โดยรอบจะมีรูปปั้นที่สื่อถึงการบูชาพระอาทิตย์ สถาปัตยกรรมจะได้อิทธิพลมาจากสเปน เพราะครั้งหนึ่งที่นี่เคยเป็นอาณานิคมของสเปน สร้างขึ้นจากหิน แข็งแรงมั่นคง เป็นจุดเช็กอินห้ามพลาดของเมืองกุสโกด้วยเช่นกัน
10. อารามซานตาคาตาลินา (Santa Catalina Monastery)
อีกหนึ่งสถานที่สำคัญในเมือง Arequipa ประเทศเปรู สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1579 เพื่อเป็นอารามของแม่ชี ตัวอารามสร้างมาจากหินภูเขาไฟ มีสถาปัตยกรรมแบบโคโรเนียล ผสมผสานกับศิลปะแบบท้องถิ่นของเปรู มีสีสันสดใส ภายในจัดแสดงเป็นพิพิธภัณฑ์ให้กับนักท่องเที่ยว
11. พีระมิด Huaca Pucllana
ตั้งอยู่ที่เมืองลิมา สร้างขึ้นจากก้อนอิฐหลายล้านก้อน วางเรียงต่อกันขึ้นไปเป็นเนินภูเขาสูง ส่วนอีกทางฝั่งหนึ่งจะเป็นกำแพงอิฐบริเวณกว้าง และบริเวณรอบ ๆ ยังจัดแสดงเกี่ยวกับวัฒนธรรมของชาวอินคาอีกด้วย
12. วิหารแห่งเมืองลิมา (Cathedral Lima)
วิหารแห่งเมืองลิมา
เป็นโบสถ์ที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งของเมืองลิมา ตั้งอยู่บริเวณ Plaza Mayor
สร้างในช่วงปี ค.ศ. 1535 โดยมีสถาปัตยกรรมสไตล์โคโรเนียล
ด้านนอกเป็นสีขาวสะอาดตา ภายในตกแต่งอย่างสวยงามหรูหรา บรรยากาศเงียบสงบ
นักท่องเที่ยวนิยมที่จะมาถ่ายรูปที่หน้าโบสถ์ในช่วงยามเย็น
เพราะจะมีบรรยากาศที่สวยงามมาก
13. หมู่เกาะบาเญตาส์ (Ballestas Islands)อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติสุดอัศจรรย์ของประเทศเปรู ก็คือหมู่เกาะบาเญตาส์ ที่นี่เป็นบ้านของสิงโตทะเลนับพันตัว พวกมันจะขึ้นมานอนรับลมเย็น ๆ อยู่บริเวณชายหาดอย่างน่ารักน่าชัง นอกจากนี้ยังมีสัตว์อื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งเพนกวินและนกทะเลอีกหลายชนิด อีกทั้งบนเกาะแห่งนี้ยังมีธรรมชาติสุดอัศจรรย์ ระหว่างนั่งเรือชมเกาะนักท่องเที่ยวจะเห็นเนินหินสีแดงขนาดใหญ่ และยังมีภาพลายเส้นรูปเชิงเทียนสลักลงไปอย่างสวยงาม ซึ่งก็ไม่ปรากฏแน่ชัดว่าใครเป็นคนสร้างขึ้นมา
14. เมืองในทะเลทราย (Huacachina)
วาคาชินา (Huacachina) เป็นเมืองจิ๋วที่ล้อมรอบไปด้วยทะเลทรายสุดกว้างใหญ่ในเมืองอิคา (Ica Province) ความแปลกของเมืองแห่งนี้ก็คือมีทะเลสาบตามธรรมชาติ ซึ่งถูกล้อมรอบด้วยทะเลทรายทั้งหมด และเนินทรายอันสูงชันเหล่านี้ก็กลายเป็นสถานที่เล่นสไลเดอร์สุดมันส์ของนักท่องเที่ยวอีกด้วย บริเวณโดยรอบทะเลสาบจะมีต้นปาล์มสีเขียวสดใส พร้อมทั้งรีสอร์ท ร้านอาหารสุดหรูหรามากมาย ที่นี่จึงเป็นที่เที่ยวที่พักผ่อนยอดนิยมของคนเปรู
15. ลายเส้นนาสกา (Nasca Lines)
สิ่งมหัศจรรย์อีกหนึ่งสิ่งของเปรูที่จะไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือลายเส้นนาสกา ซึ่งเป็นลายเส้นที่ถูกลากขึ้นบริเวณที่ราบเป็นรูปร่างต่าง ๆ ห่างจากเมืองลิมาไปทางตอนใต้ประมาณ 400 กิโลเมตร โดยครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 450 ตารางกิโลเมตร จากหลักฐานพบว่ามีการทำขึ้นมาในช่วงระหว่าง 500 ปีก่อนคริสตกาล ถึงปี ค.ศ. 500 โดยเป็นลายเส้นที่ถูกลากบนหินให้มีรูปร่างต่าง ๆ แปลกตาและยังคงเป็นปริศนาถึงปัจจุบันว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร
เห็นไหมคะ...ประเทศนี้มีอะไรน่าสนใจเยอะมากจริง ๆ หากใครกำลังวางแผนจะไปเที่ยว หรือยังไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวต่างประเทศในปีนี้จะเป็นที่ไหน ลองเก็บเปรูมาพิจารณากันได้นะคะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
unesco, llamapath.com, laketiticaca.com, unesco, peru.travel, wmf.org, huacachina.com