แวะจิบชาที่ "ดอยวาวี" (กรุงเทพธุรกิจ)
โดย : รัชดา ธราภาค
หลังจากเสร็จภารกิจการงานด้วยความเหนื่อยล้าหลายคนนึกถึงร้านกาแฟนั่งสบายคลายอารมณ์ แต่ถ้าบังเอิญให้ต้องบุกบั่นมาทำงานกันถึงอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย อย่างวันนี้อารมณ์ละเลียดชากาแฟที่เกิดมีตามความเคยชิน เลยต้องตอบสนองแบบบากบั่นพอๆ กันด้วยการตะเกียกตะกายไปที่ "ร้านชาวาวี บนดอยวาวี"
ถ้าดูตามคู่มือเที่ยวทั่วไทยไปกัน "นายรอบรู้"แล้วน่าจะไม่หนักหนา คู่มือบอกว่า ตำบลวาวีแค่เลี้ยวจากทางหลวงหมายเลข 118ไปแค่ 50 กิโลเมตรเท่านั้น
"ทางช่วงแรกลาดยางประมาณ 15 กม. จากนั้นเป็นทางลูกรังอีก 15 กม.ช่วง 20 กม.สุดท้ายลาดยางอย่างดี" เป็นข้อมูลประกอบการเดินทางแค่อ่านข้อความคงไม่ทราบซึ้งเท่าได้สัมผัส..แต่ทางเรียบสบายสลับลูกรังทุลักทุเลแค่ไม่กี่สิบกิโลเมตรก็ยังนับว่าพอสนุกนั้งรถขลุกๆ ขลักๆ แค่ไม่ทันเหนื่อยก็ถึงจุดหมาย
หมู่บ้านปลูกชาบรรยากาศเป็นชุมชนคนจีนฮ่อที่อยู่อาศัยทำกินปะปนกับอีกหลากหลายพันธุ์ชนเผ่า ทั้งลีซอ เย้า ละหู่อะข่า และปกาเกอะญอ รถปิกอัพคันเก่งของชาวเราจอดสนิทพอดีตรงหน้าร้านชาวาวีของ "เฮีย" พินิจ พิทักษ์วาวี
เฮียพินิจเล่าให้ฟังด้วยคำไทยเสียงจีนว่า ดอยวาวีเป็นพื้นที่ปลูกชาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทั้งชาพันธุ์เมือง ชาจีน ชาซีลอนพันธุ์ต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งชา "ชิงชิงอูหลง" หรือที่เรียกว่าพันธุ์ "มังกรดำ"กลิ่นหอมกรุ่นที่ปลูกได้ปลูกดี ก็เนื่องจากดอยวาวีตั้งอยู่ในทำเลหุบเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลเกิน 1,000 ฟุต มีอุณหภูมิคงที่ตลอดปี ซ้ำปลอดมลพิษเพราะถ้าเป็นแหล่งปนเปื้อนสารพิษ ใบชาซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นเป็นเยี่ยมคงสูบมลพิษเข้าไปเต็มๆ
ก่อนจะชงชาอู่หลงหอมๆ ให้ได้ชิมกัน เฮียพินิจยังพาเดินชิมไร่ชา(เสียดายไม่ได้เจอพ่อหนอนกับลูกหนอนชาเขียว)และโรงงานอบชาที่ตั้งอยู่ข้างๆ ร้าน เฮียพินิจเล่าว่าตัวเฮียเองเป็นคนวาวี เห็นเขาทำไร่ชากันมาแต่ไหนแต่ไรแต่ไม่บูม จนต่อมาเฮียเริ่มเห็นลู่ทางการค้าว่าไร่ชาโรงชาน่าจะไปได้ดีเลยเดินทางไกลไปเรียนรู้วิธีทำชาและชงชาถึงประเทศไต้หวัน ก่อนจะกลับมาทำไร่เปิดร้าน แถมบรรจุชาใส่ซองสูญญากาศขายกันเป็นล่ำเป็นสัน
นอกจากจะแวะชมโรงบ่มใบชา ชิมชาหอมๆ แล้ว ตอนนี้ดอยวาวียังได้รับความนิยมว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนอารมณ์ บนดอยมี"เลาท์ลีรีสอร์ท" ที่ตั้งห้องพักเรียงรายริมไร่ชา มีตั้งแต่ขนาดพัก 2 คน ไปจนถึงห้องใหญ่ ๆ อยู่ได้ 20-30 คน ราวเดือนนี้เดือนหน้าถือว่าอุณหภูมิกำลังดี
แต่ถ้าเป็นคนขี้เบื่อมีคำแนะนำว่าขากลับไม่จำเป็นต้องซ้ำรอยเก่าคุณสามารถออกจากดอยวาวีมุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ถนนเป็นลูกรังเต็มรูปแบบ (ช่วยลดไขมันได้ดีกว่าดื่มชา) พอถึงถนนหลวงจะเจอด่านตรวจเป็นระยะ ให้คุณตอบซื่อ ๆว่าไปแวะชิมชาที่วาวีมากำลังเจ้าหน้าที่ร่วมสิบนายพร้อมอาวุธครบมือจะเชิญคุณลงจากรถเพื่อขอตรวจสอบความเรียบร้อยในการเดินทาง
แต่ถ้าไม่ชอบความสมบุกสมบัน (ทางแย่สุดๆ) และตื่นเต้น (โดนค้นยาบ้า) ..แนะนำให้ขับรถกลับทางเดิมค่ะ
เคล็ดลับการชงชา สูตร "เฮียพินิจ"
1. อุ่นกาชา และถ้วยชาโดยใช้น้ำร้อนลวก เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นภาชนะอีกทั้งจะเป็นการทำให้อุณหภูมิในภาชนะคงตัวพร้อมสำหรับการชงชา
2. ใส่ใบชาลงในกาในปริมาณที่พอเหมาะ ราว1/6 - 1/4 ของปริมาตรกา
3. รินน้ำร้อนลงในกาครึ่งหนึ่ง แล้วเททิ้งทันที (ไม่ควรเกิน 5วินาที)เพื่อล้างเศษฝุ่นละอองในตัวชาและเพื่อกระตุ้นใบชาให้ตื่นตัวโดยไม่ต้องดื่มน้ำแรก
4. รินน้ำเดือดลงในกาชาจนเต็ม ปิดฝากาทิ้งไว้ประมาณ 45 - 60 วินาที
5. รินน้ำชาลงถ้วยกลางพักชา โดยการรินแต่ละครั้งต้องรินน้ำออกให้หมดกา มิฉะนั้นจะทำให้น้ำชาที่เหลือคากามีรสขมฝาดในกรณีที่รินลงถ้วยดื่มโดยตรง ให้รินหมุนเป็นวงเพื่อให้รสชาติชองชาเสมอกันทุกถ้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก
หลังจากเสร็จภารกิจการงานด้วยความเหนื่อยล้าหลายคนนึกถึงร้านกาแฟนั่งสบายคลายอารมณ์ แต่ถ้าบังเอิญให้ต้องบุกบั่นมาทำงานกันถึงอำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย อย่างวันนี้อารมณ์ละเลียดชากาแฟที่เกิดมีตามความเคยชิน เลยต้องตอบสนองแบบบากบั่นพอๆ กันด้วยการตะเกียกตะกายไปที่ "ร้านชาวาวี บนดอยวาวี"
ถ้าดูตามคู่มือเที่ยวทั่วไทยไปกัน "นายรอบรู้"แล้วน่าจะไม่หนักหนา คู่มือบอกว่า ตำบลวาวีแค่เลี้ยวจากทางหลวงหมายเลข 118ไปแค่ 50 กิโลเมตรเท่านั้น
"ทางช่วงแรกลาดยางประมาณ 15 กม. จากนั้นเป็นทางลูกรังอีก 15 กม.ช่วง 20 กม.สุดท้ายลาดยางอย่างดี" เป็นข้อมูลประกอบการเดินทางแค่อ่านข้อความคงไม่ทราบซึ้งเท่าได้สัมผัส..แต่ทางเรียบสบายสลับลูกรังทุลักทุเลแค่ไม่กี่สิบกิโลเมตรก็ยังนับว่าพอสนุกนั้งรถขลุกๆ ขลักๆ แค่ไม่ทันเหนื่อยก็ถึงจุดหมาย
หมู่บ้านปลูกชาบรรยากาศเป็นชุมชนคนจีนฮ่อที่อยู่อาศัยทำกินปะปนกับอีกหลากหลายพันธุ์ชนเผ่า ทั้งลีซอ เย้า ละหู่อะข่า และปกาเกอะญอ รถปิกอัพคันเก่งของชาวเราจอดสนิทพอดีตรงหน้าร้านชาวาวีของ "เฮีย" พินิจ พิทักษ์วาวี
เฮียพินิจเล่าให้ฟังด้วยคำไทยเสียงจีนว่า ดอยวาวีเป็นพื้นที่ปลูกชาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีทั้งชาพันธุ์เมือง ชาจีน ชาซีลอนพันธุ์ต่างๆ เฉพาะอย่างยิ่งชา "ชิงชิงอูหลง" หรือที่เรียกว่าพันธุ์ "มังกรดำ"กลิ่นหอมกรุ่นที่ปลูกได้ปลูกดี ก็เนื่องจากดอยวาวีตั้งอยู่ในทำเลหุบเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเลเกิน 1,000 ฟุต มีอุณหภูมิคงที่ตลอดปี ซ้ำปลอดมลพิษเพราะถ้าเป็นแหล่งปนเปื้อนสารพิษ ใบชาซึ่งมีคุณสมบัติในการดูดซับกลิ่นเป็นเยี่ยมคงสูบมลพิษเข้าไปเต็มๆ
ก่อนจะชงชาอู่หลงหอมๆ ให้ได้ชิมกัน เฮียพินิจยังพาเดินชิมไร่ชา(เสียดายไม่ได้เจอพ่อหนอนกับลูกหนอนชาเขียว)และโรงงานอบชาที่ตั้งอยู่ข้างๆ ร้าน เฮียพินิจเล่าว่าตัวเฮียเองเป็นคนวาวี เห็นเขาทำไร่ชากันมาแต่ไหนแต่ไรแต่ไม่บูม จนต่อมาเฮียเริ่มเห็นลู่ทางการค้าว่าไร่ชาโรงชาน่าจะไปได้ดีเลยเดินทางไกลไปเรียนรู้วิธีทำชาและชงชาถึงประเทศไต้หวัน ก่อนจะกลับมาทำไร่เปิดร้าน แถมบรรจุชาใส่ซองสูญญากาศขายกันเป็นล่ำเป็นสัน
นอกจากจะแวะชมโรงบ่มใบชา ชิมชาหอมๆ แล้ว ตอนนี้ดอยวาวียังได้รับความนิยมว่าเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนอารมณ์ บนดอยมี"เลาท์ลีรีสอร์ท" ที่ตั้งห้องพักเรียงรายริมไร่ชา มีตั้งแต่ขนาดพัก 2 คน ไปจนถึงห้องใหญ่ ๆ อยู่ได้ 20-30 คน ราวเดือนนี้เดือนหน้าถือว่าอุณหภูมิกำลังดี
แต่ถ้าเป็นคนขี้เบื่อมีคำแนะนำว่าขากลับไม่จำเป็นต้องซ้ำรอยเก่าคุณสามารถออกจากดอยวาวีมุ่งหน้าไปทางอำเภอแม่อายจังหวัดเชียงใหม่ถนนเป็นลูกรังเต็มรูปแบบ (ช่วยลดไขมันได้ดีกว่าดื่มชา) พอถึงถนนหลวงจะเจอด่านตรวจเป็นระยะ ให้คุณตอบซื่อ ๆว่าไปแวะชิมชาที่วาวีมากำลังเจ้าหน้าที่ร่วมสิบนายพร้อมอาวุธครบมือจะเชิญคุณลงจากรถเพื่อขอตรวจสอบความเรียบร้อยในการเดินทาง
แต่ถ้าไม่ชอบความสมบุกสมบัน (ทางแย่สุดๆ) และตื่นเต้น (โดนค้นยาบ้า) ..แนะนำให้ขับรถกลับทางเดิมค่ะ
เคล็ดลับการชงชา สูตร "เฮียพินิจ"
1. อุ่นกาชา และถ้วยชาโดยใช้น้ำร้อนลวก เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคและดับกลิ่นภาชนะอีกทั้งจะเป็นการทำให้อุณหภูมิในภาชนะคงตัวพร้อมสำหรับการชงชา
2. ใส่ใบชาลงในกาในปริมาณที่พอเหมาะ ราว1/6 - 1/4 ของปริมาตรกา
3. รินน้ำร้อนลงในกาครึ่งหนึ่ง แล้วเททิ้งทันที (ไม่ควรเกิน 5วินาที)เพื่อล้างเศษฝุ่นละอองในตัวชาและเพื่อกระตุ้นใบชาให้ตื่นตัวโดยไม่ต้องดื่มน้ำแรก
4. รินน้ำเดือดลงในกาชาจนเต็ม ปิดฝากาทิ้งไว้ประมาณ 45 - 60 วินาที
5. รินน้ำชาลงถ้วยกลางพักชา โดยการรินแต่ละครั้งต้องรินน้ำออกให้หมดกา มิฉะนั้นจะทำให้น้ำชาที่เหลือคากามีรสขมฝาดในกรณีที่รินลงถ้วยดื่มโดยตรง ให้รินหมุนเป็นวงเพื่อให้รสชาติชองชาเสมอกันทุกถ้วย
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก