ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ หรือศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา อาณาจักรที่เปิดจินตนาการของเด็กไทยให้กว้างไกลสุด ๆ เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ส่งเสริมการเรียนรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์แบบบูรณาการให้กับคนไทยมาอย่างยาวนาน ซึ่งเมื่อต้นปี 2559 ท้องฟ้าจำลองก็ได้เผยโฉมความงดงามของตัวเองในรูปแบบใหม่ ที่ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต่างตื่นเต้นไปตาม ๆ กัน วันนี้เราจึงจะมาไขข้อข้องใจกันค่ะว่าทำไมใคร ๆ ถึงต้องมีท้องฟ้าจำลองเป็นส่วนหนึ่งของความทรงจำที่ดีที่สุดในชีวิตกัน เหตุผลที่คุณต้องไปสัมผัสท้องฟ้าจำลองกันสักครั้งมีอะไรบ้าง...ไปดูเลย
1. เป็นศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบบูรณาการที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย
นอกจากที่นี่จะให้ความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์เป็นหลักแล้ว ผู้เข้าชมยังจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับเรื่องอื่น ๆ ที่เป็นความรู้เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อีกด้วย ซึ่งมีการจัดนิทรรศการต่าง ๆ อย่างน่าสนใจ โดยเน้นให้เข้าใจง่ายและให้ความเพลิดเพลินแก่ผู้เข้าชม ไม่ว่าจะเด็ก ผู้ใหญ่ ก็สามารถเข้าถึงวิทยาศาสตร์ได้อย่างง่ายดาย
2. ห้องฉายดาวโฉมใหม่ อลังการไฉไลกว่าเดิม
โดยในต้นปี 2559 ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา (ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ) ได้เผยโฉมห้องฉายดาวฉบับปรับปรุงใหม่ที่ทำให้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ต้องตาลุกวาว เพราะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ซึ่งสวยงามอลังการมาก ๆ เลยทีเดียว ทั้งเครื่องฉายดาวระบบดิจิตอล ที่มีศักยภาพความละเอียดคมชัดสูงระดับ 4K พร้อมด้วยระบบดิจิตอล Digistar 5 จากประเทศสหรัฐอเมริกา, ระบบแสง สี เสียง ที่ได้มาตรฐานสากล, เปลี่ยนเก้าอี้ใหม่สีสันสดใสสวยงาม คล้ายกับที่นั่งในโรงภาพยนตร์, การตกแต่งห้องฉายดาวให้เหมือนกับแสงออโรร่า และอื่น ๆ อีกมากมาย
การแสดงในห้องฉายดาว ดังนี้
วันจันทร์-ศุกร์ มีการแสดง 2 รอบ คือ เวลา 11.00 น. และ 14.00 น.
วันเสาร์-อาทิตย์ 4 รอบ คือ เวลา 11.00 น., 13.00 น., 14.00 น. และ 15.00 น.
บรรเจิดเลิศเลอมาก ใครที่ใฝ่ฝันอยากเห็นแสงออโรร่าหรือแสงเหนือแสงใต้สักครั้งในชีวิต แต่ยังเก็บเงินได้ไม่พอ ก็ไปดูแสงจำลองกันไปพลาง ๆ ได้ก่อนที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพแห่งนี้ ซึ่งมีการฉายภาพยนตร์เต็มโดมเรื่องใหม่แกะกล่อง เรื่องมหัศจรรย์แห่งแสงออโรร่า จากเครื่องฉายดาวระบบดิจิตอล ที่จะสร้างความตื่นเต้นและเพลิดเพลินให้กับผู้เข้าชมได้อย่างดีเยี่ยม โดยจะเปิดการแสดงรอบละ 50 นาที รองรับผู้ชมได้รอบละ 280 คน
4. นิทรรศการสัตว์น้ำก็มีให้ชม
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ไม่ได้จัดแสดงเพียงแค่เรื่องราวเกี่ยวกับดาราศาสตร์เท่านั้น เพราะที่อาคาร 3 ได้ทำการจัดแสดงเรื่องราวมหัศจรรย์ชีวิตในสายน้ำ ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าเที่ยวชมอีกด้วย ซึ่งภายในห้องนิทรรศการนี้จะจัดแสดงกลุ่มปลาหายากและใกล้สูญพันธุ์, ปลาเศรษฐกิจ, ปลาน้ำจืด และปลาน้ำเค็ม หลากหลายสายพันธุ์ โดยนักท่องเที่ยวจะได้สังเกตพฤติกรรมของสัตว์น้ำเหล่านี้อย่างใกล้ชิด
5. แหล่งเรียนรู้เรื่องไดโนเสาร์ในกรุงเทพฯ
ท้องฟ้าจำลองได้จัดนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ที่น่าสนใจมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือนิทรรศการไดโนเสาร์ โดยได้จัดการแสดงอยู่ในอาคาร 4 ผู้เข้าชมจะได้รู้จักวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต, สิ่งมีชีวิตที่สำคัญในแต่ละยุค, เครื่องมือของนักสำรวจ และไดโนเสาร์ไทย ใครที่อยากรู้จักไดโนเสาร์และย้อนเวลากลับไปในยุคดึกดำบรรพ์ก็ไปเที่ยวที่ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพกันได้เลย
6. บัตรค่าเข้าชมถูกสุด ๆ
สำหรับความรู้ต่าง ๆ และความเพลิดเพลินที่ผู้เข้าชมจะได้รับจากท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ บอกเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ กับราคาค่าเข้าชมในราคาหลักสิบ ซึ่งบัตรเข้าชมสำหรับเด็ก/นักเรียน/นักศึกษา/ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี ราคา 20 บาท/คน, ผู้ใหญ่ 30 บาท/คน และพระภิกษุ-สามเณร ชมฟรี ได้ดูแสงออโรร่าสุดอลังการในราคาเท่านี้ บอกเลยว่าคุ้มเกินคุ้ม !
7. เดินทางไปเที่ยวได้ง่ายและสะดวกสุด ๆ
ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ 928 ถนนสุขุมวิท เขตคลองเตย กรุงเทพฯ ซึ่งหากขับรถไปก็จะสังเกตได้อย่างง่ายดาย มีสถานที่จอดรถรองรับ หรือถ้าไม่อยากเผชิญกับปัญหารถติด ก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS ไปได้เช่นกัน ซึ่งสามารถลงที่สถานีเอกมัยได้เลย ใช้ทางออก 2 จากนั้นให้กลับหลังหัน แล้วเดินมุ่งหน้าไปทางสถานีขนส่งเอกมัย ท้องฟ้าจำลองจะอยู่ทางซ้ายมือ เป็นการเที่ยวกรุงเทพฯ ได้ง่าย ๆ ภายในวันเดียว
ทั้งนี้นักท่องเที่ยวสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา โทรศัพท์ 0 2391 0544, 0 2392 0508, 0 2392 1773
วันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ถ้าไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหนก็อย่ามองข้าม "ท้องฟ้าจำลอง" กันนะคะ จะไปเที่ยวคนเดียว ไปเที่ยวกับเพื่อน หรือจะควงใครไปด้วยก็ได้รับความสนุกสนานและความเพลิดเพลินได้เหมือนกันค่ะ :)
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา, เฟซบุ๊ก ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ
