x close

เที่ยวภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน


ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          "ภูเก็ต" เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก...เจ้าของฉายาไข่มุกแห่งอันดามัน อาจเพราะภูเก็ตครบครันไปด้วยธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงความสะดวกสบายในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง อาหารการกิน หรือที่พักรูปแบบต่าง ๆ ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปตามบันทึกการเดินทางของ คุณสมาชิกหมายเลข 2367011 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปลั้ลลาเที่ยวภูเก็ตกันค่ะ แต่เป็นภูเก็ตในช่วงหน้าฝนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์มากมายซุกซ่อนอยู่ยามสายฝนโปรยปราย ^^ อ๊ะ ๆ แต่ไปแบบเซฟ ๆ ประหยัดงบประมาณด้วยการนั่งรถไฟและไปต่อรถทัวร์แบบชิล ๆ เอาเป็นว่าลองไปดูกันค่ะว่าภูเก็ตหน้าฝนจะสวยน่าเที่ยวขนาดไหน



ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ||  K E E P I N  M I N D ||

          ลองดูสักครั้งกับการไปทะเลหน้าฝน  ^^ ชุ่มฉ่ำมาก ๆ เลยค่ะ เจอฝนทุกวันที่ไปเที่ยว แต่ก็สวยไปอีกอารมณ์ ได้อารมณ์เที่ยวทะเลแบบเหงา ๆ แต่ก็ใช่ว่าจะหมดสนุกนะคะ เพราะก็มีบางช่วงที่ฟ้าฝนเป็นใจ หยุดตกให้เราได้ออกไปถ่ายภาพสวย ๆ เดินดูบรรยากาศเมืองภูเก็ตกันได้บ้าง

          ไปภูเก็ตครั้งนี้เราเน้นแบบเซฟสุด ๆ ประหยัดสุด ๆ เลยเลือกการเดินทางโดยรถไฟค่ะ รอบนี้นั่งกันรากงอกเลย 11 ชม. ^^

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เราออกเดินทางจากกรุงเทพฯ กันตอน 18.30 น. จริง ๆ เราตั้งใจว่าจะนั่งรถไฟฟรีรอบบ่ายโมง แต่มาถึงหัวลำโพงช้าไปหน่อย เลยจำใจต้องเสียเงินค่ารถไฟ รอบที่เราได้คือรอบ 17.30 น. แต่เรื่องก็ดันเกิดเอาตรงนี้ค่ะ "เราตกรถไฟ" ไม่จริงใช่ไหม T__T เรื่องจริงใช่ไหมเนี่ย รถไฟออกตรงเวลา !!! เรามาพลาดไปประมาณ 10  นาที เพราะดันตั้งนาฬิกาไม่ตรงกับเวลาที่สถานี แล้วเอาไงต่อล่ะทีนี้ พี่เจ้าหน้าที่เห็นเรายืนกันมึน ๆ เลยเข้ามาถาม โชคดีค่ะเราเจอคนใจดี พี่เค้าเลยพาเราไปฝากขึ้นกับรถไฟขบวนต่อไปที่กำลังจะออก สรุปแล้วเราเดินทางออกจากกรุงเทพฯ กันตอน 18.30 น.

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เราถึงสุราษฎร์ธานีกันตอนประมาณหกโมงเช้าค่ะ แวะหาข้าวกินกันแถวสถานี แล้วนั่งรถทัวร์ต่อเข้าภูเก็ต จากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานีถึงภูเก็ตใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง รวม ๆ แล้วเราใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ จนถึงภูเก็ต ประมาณ 16 ชั่วโมง ไปแบบช้า ๆ ไม่รีบร้อนค่ะ เหนื่อยแต่มันก็สนุกไปอีกแบบ  ^^

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ถึงแล้วภูเก็ต !!!!! สิ่งที่มาต้อนรับเราตั้งแต่ก้าวแรกที่ถึงภูเก็ตคือ "ฝน" ฉ่ำกันเลยทีเดียวค่ะ นี่สินะทะเลหน้าฝน อุตส่าห์หวังไว้เล็ก ๆ ว่ามันอาจจะหยุดตกตอนเรามา T__T

          TIP * รถทัวร์จะมาส่งเราบริเวณ บขส. ใหม่ เราต้องนั่งรถต่อเพื่อเข้าไปในตลาด เพื่อต่อรถสองแถวไปหาดต่าง ๆ ในภูเก็ตนะคะ อย่าเผลอไปนั่งมอเตอร์ไซค์วินเชียว เราโดนไปคนละ 70 บาท ทั้งที่จริง ๆ ก็มีรถสองแถวผ่านค่ารถแค่  20  บาทเท่านั้น !!!

          วันนี้เราเลือกไปพักกันที่หาดกะรนค่ะ ช่วงนี้เป็นหน้าโลว์ ค่าห้องเลยค่อนข้างถูก เราได้ห้องกันมาในราคา  500 บาท ห้องสะอาดน่านอนใช้ได้เลยค่ะ วันนี้คงจะยังไปไหนไม่ได้เพราะฝนเทลงมาไม่หยุด ต้องมาลุ้น ๆ เอากันพรุ่งนี้ค่ะว่าฟ้าฝนจะเป็นใจให้เราบ้างรึเปล่า

          เรายังโชคดีอยู่ค่ะวันนี้ช่วงเช้าแดดดีมาก เลยมีเวลาได้ไปถ่ายรูปเล่นกันแถว ๆ หาดค่ะ หลังจากนั้นก็เดินหาร้านเช่ามอเตอร์ไซค์ แต่ไม่มีร้านไหนให้เราเช่า ทุกร้านให้เฉพาะชาวต่างชาติเช่าเท่านั้น  แต่ละร้านเค้าให้เหตุผลกับเราว่าเวลาให้คนไทยเช่ารถหายบ่อย เวลารถพังก็ทิ้งรถเลยไม่ค่อยรับผิดชอบ เซ็งเลยค่ะทีนี้เอาไงกันต่อดี เพราะถ้าจะนั่งรถสองแถวเที่ยวมันจะเสียเวลาและเปลืองเงินมาก ๆ

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เราเลยตัดสินใจไปหารถเช่ากันในเมือง โชคดีค่ะที่ยังมีร้านให้คนไทยเช่า เราได้มอเตอร์ไซค์กันมาในราคา  250 บาท/วัน แต่พี่เค้าขอค่ามัดจำเราไว้ 1,000 บาท ถือว่าเป็นราคาที่พอรับได้

          ::  เริ่มเที่ยวกันเลยค่ะ  ::

          ที่แรกที่ตั้งใจไปกันก่อนคือหาดป่าตองค่ะ เห็นว่าเป็นหาดที่คึกคักที่สุดของภูเก็ต ขอลองไปสักครั้ง พอขับรถไปถึงป่าตองฝนดันเทลงมาเลยไม่ได้แวะถ่ายรูปไว้เลย ต้องขับกันต่อไประหว่างทางไปหาดกมลา มีจุดชมวิวให้แวะถ่ายภาพ ไม่พลาดเลยค่ะ

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          วิวสวยใช้ได้เลยค่ะ นี่สินะทะเลภูเก็ต  ^^

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เรามีความสุขทุกครั้งที่ได้เดินทางไปในที่ใหม่ ๆ ได้ลองทำอะไรใหม่ ๆ ผิดกันบ้าง พลาดกันบ้างก็ถือเป็นประสบการณ์ที่ดี

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ::  หาดสุรินทร์ ::

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          หาดนี้คนไม่มากค่ะ ที่พักแถว ๆ หาดก็ค่อนข้างน้อย

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เริ่มหิวแล้วค่ะตั้งแต่เช้ายังไม่ได้กินอะไรเลย มองไปมองมาเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว จัดซะหน่อยยยยยย 40 บาทรสชาติคุ้มราคา ^^

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ระหว่างขับรถก็เปียกกันมาตลอดทางค่ะ เปียกบ้าง แห้งบ้าง แต่เราก็ยังไม่ยอมแพ้ขับกันต่อไป ขับกันมาเรื่อย ๆ จนถึงหาดราไวย์ค่ะ บริเวณนี้ส่วนใหญ่เป็นที่จอดเรือประมง

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          บางครั้งการเดินทางไม่ได้ให้แค่ความสุข บางครั้งเราอาจจะต้องเจอเรื่องเซ็งบ้าง นั่นก็ถือเป็นรสชาติของการเดินทาง เป็นความสุขทุก ๆ ครั้งเมื่อเรานึกถึง

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เริ่มเย็นแล้วค่ะ หาดสุดท้ายของเราในวันนี้คือหาดกะตะ

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เราปิดทริปของวันนี้ด้วยจุดพีคของที่นี่ ที่ที่ทุกคนมาภูเก็ตจะต้องไม่พลาด ใช่แล้วค่ะ "แหลมพรหมเทพ" ^___^

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เก็บไว้ในความทรงจำ

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          เช้าสุดท้ายที่ภูเก็ต

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ภาพนี้ถ่ายเช้าวันที่สองแดดเปรี้ยงมาก ๆ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา ถึงเวลากลับบ้านกันแล้วค่ะ ยังอยากอยู่ต่ออยู่เลย ถ้ามีโอกาสต้องกลับมาอีกครั้งแน่นอน ก่อนกลับเรามาแวะเดินถ่ายรูปเล่นกันในตัวเมืองภูเก็ตค่ะ เป็นย่านเมืองเก่า มีตึกชิโนโปรตุกีสสวย ๆ ให้เราได้ยกกล้องขึ้นถ่ายภาพกันสนุกเลยค่ะ โชคดีที่ฝนหยุดตก เพราะตกมาตั้งแต่เมื่อคืน เราเลยเดินชมเมืองกันในบรรยากาศ ครึ้มฟ้า ครึ้มฝน ได้อารมณ์มาก ๆ เลยค่ะ เดินกันสบาย ๆ ดูตึกเก่าสวย ๆ

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ พบกันใหม่ในการเดินทางครั้งหน้า ^^

ภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน

          Decide how you want to feel, and go wherever it takes to feel that way

          สรุปค่าใช้จ่าย

          วันที่ 1

          ค่ารถไฟกรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี = 221 บาท
          ค่ารถจากสถานีรถไฟสุราษฎร์ธานี-ภูเก็ต = 220 บาท
          รถมอเตอร์ไซค์จาก บขส.-ตลาด = 70 บาท
          ค่ารถสองแถวเข้าหาดกะตะ = 35 บาท
          ค่าห้องพัก = 500 บาท
          รวม 1,046 บาท

          วันที่ 2

            ค่ารถสองแถวเข้าหาดกะตะ-เข้าเมือง = 35 บาท
          ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์ = 250 บาท
          ค่าเติมน้ำมัน = 100 บาท
          ค่าที่พัก = 500 บาท
          รวม 885 บาท

          วันที่ 3

          รถสองแถวจากตลาด-บขส.  = 20 บาท
          ค่ารถจากภูเก็ต-สุราษฎร์ธานี = 190 บาท
          ค่ารถไฟสุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ = ฟรี
          รวม 210 บาท

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณสมาชิกหมายเลข 2367011 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เที่ยวภูเก็ตแบบไม่รีบร้อน แบกเป้นั่งรถไฟไปทะเลหน้าฝน อัปเดตล่าสุด 17 สิงหาคม 2558 เวลา 10:52:13 51,049 อ่าน
TOP