x close

ตะลุยแดนมังกร ชมเมืองโบราณอายุเก่าแก่

จีน


ตะลุยแดนมังกร ชมเมืองโบราณที่มีอายุเก่าแก่ (Weekend)

Story & Photo : tongta

          "ไปเมืองจีนมั้ย..." เสียงคุณแม่เอ่ยถามเมื่อผู้เขียนก้าวเท้าเข้าบ้าน

          "ไปทำไมอ่ะ... แล้วไปไหนบ้าง" ผู้เขียนถามตอบพร้อม ๆ กับวางเป้ใบโต ที่แบกไว้บนหลังตั้งแต่บ่าย คุณแม่เอ่ยโปรแกรมให้ฟังคร่าว ๆ ขณะที่ผู้เขียนกำลังคุ้ยเขี่ยของในเป้

          "มีไปแชงกรีล่าด้วยนะ... อยากไปไม่ใช่เหรอ"

          "แชงฯ ปลอมป่าวแม่ ไม่ใช่ไปถึงไม่เจออะไรเลยนะ" แต่ในใจผู้เขียนเริ่มเต้นตุ๊บ ๆ เพราะแชงกรีล่าเป็นสถานที่ในฝันที่อยากไปมาก ๆ อยากไปดู หมู่บ้านชาวทิเบต อยากดูการแสดงโชว์ของทิเบต และที่สำคัญฉันอยากได้ "หินทิเบต" มาก ๆ ผู้เขียนจึงถามต่อถึงกำหนดการเดินทาง ได้ความว่า พวกเราต้องไปช่วงเดือนกุมภาพันธ์ จากที่คาดการณ์ไว้ช่วงนั้นเมืองจีน อากาศไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่ อุณหภูมิคงอยู่ที่ 8-15 องศา เรียกว่าพอถูไถ สำหรับผู้เขียนและคุณแม่ พวกเราจึงตกลงที่จะไปร่วมขบวนการตะลุยแดน มังกรในครั้งนี้...

          เครื่องลงที่คุนหมิงตั้งแต่เช้าตรู่ อากาศวันนี้เย็นจับขั้วผู้เขียนต้องสวมเสื้อ หนาวอีก 1 ตัวเพื่อกันลม หลังจากเก็บของเข้าที่พักเรียบร้อยคณะทัวร์ก็ ออกตะลุยทันที โดยเริ่มที่ "ต้าหลี่" ต้าหลี่ ตั้งอยู่ในมณฑลยูนนาน (ทางใต้ของประเทศจีน) ปัจจุบัน ต้าหลี่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ทำเงินของจีน เนื่องจากเป็นเมืองโบราณและมีสถานที่น่าสนใจให้เที่ยวมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เจดีย์ 3 องค์ (วัดฉงเซิ่ง), เมืองโบราณต้าหลี่ หรือที่พวกเรากำลังจะไปกัน โรงถ่ายละคร 8 เทพอสูรมังกรฟ้า

          "อยากจะขำ... มันน่าเที่ยวตรงไหนเนี่ยแม่" ผู้เขียนโวยทันทีที่ลงจากรถ คุณแม่ได้แต่มองหน้าแล้วยิ้มแห้ง ๆ แล้วผู้เขียนก็เดินตามไปแบบไม่มีปากเสียงอีก เพราะดูคุณแม่จะมีความสุขมาก ๆ กับการได้มาสัมผัสบรรยากาศ โรงถ่ายละครชื่อดังของเมืองจีน ด้านในมีการตกแต่งแบบอลังการสุด ๆ แต่ที่ผู้เขียนชอบมากเห็นจะเป็นบัลลังก์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ในปราสาทเห็น แล้วอยากขึ้นไปนั่งชะมัดแต่ค่าใช้จ่ายสูงพอตัว ที่นี่เขามีให้เช่าชุดถ่ายรูปได้ ใครอยากเป็น ฮ่องเต้, ซูสีไทเฮา หรืออยากเป็น ขันที เขาก็มีให้ใส่ทั้งนั้นค่ะ ค่าชุดต่างหาก ค่าถ่ายรูปอีกต่างหาก โอ้ย...โหดจริง ๆ อ๋อ...ลืมบอก ค่าเข้าเขาก็เก็บนะคะแต่จำราคาไม่ได้แล้ว

          จบจากดื่มด่ำบรรยากาศโรงถ่ายแล้ว พวกเราก็มุ่งหน้าไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมโดยการล่องเรือผ่าน "ทะเลสาบเอ๋อไห่" เมื่อลงจากเรือต้องเดินขึ้นบันไดอีกกว่า 100 ขั้น ผู้เขียนกัด ฟันเดินจนสุดทางก็ได้พบกับทิวทัศน์ที่สวยงามตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ท้องฟ้าวันนี้ค่อนข้างมืดนิด ๆ ภาพที่ถ่ายออกมาจึงไม่น่าหลงใหลเท่าไหร่ หัวหน้าคณะทัวร์บอกว่าฝนทำท่าจะตกและคงอยู่ที่นี่กันได้ไม่นานนัก ผู้เขียนจึงเดินลงบันไดมาก่อนเพราะอยากเก็บภาพบรรยากาศข้างทาง ซึ่งมีร้านค้าตลอดทาง ทั้งขายของกินเล่น เครื่องดื่ม รวมไปถึงของฝากต่าง ๆ

          พวกเราถึงโรงแรมกันตอนเย็นพอดี อาหารเย็นรอท่าอยู่แล้วพวกเราจึง จัดแจงกันจนเกลี้ยง ผัดผักของที่นี่อร่อยมากค่ะ(แต่น้ำมันเยอะไปหน่อย) ส่วนอาหารอื่น ๆ ก็พอกินได้ค่ะ ที่นี่เขาเน้นผักมากกว่าเนื้อสัตว์ และของ ที่ขาดไม่ได้เลยบนโต๊ะคือ "ไข่เจียว" (ทางคณะทัวร์รู้ใจคนไทยจริง ๆ)

          เมื่อเห็นว่าฟ้าเริ่มมืดผู้เขียนจึงขอตัวออกมาเดินย่อยเสียหน่อย "เมืองโบราณต้าหลี่" คับคั่งไปด้วยผู้คน ร้านรวงสว่างไสวและมีให้เห็นมากจนสุดตา ของที่ขายส่วนใหญ่เป็นของฝากเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงชิ้นใหญ่ ๆ ราคาสูงลิบลิ่วแต่ถ้าต่อก็ลดได้ค่ะ ผู้เขียนสนใจกล่องเหล็กใบเล็ก ๆ (คล้ายกระเป๋าเก็บเหรียญ) จึงถามกับแม่ค้าหน้าแป้นเป็นภาษาอังกฤษ แล้วเธอก็ตอบมาแบบ...@#!**#*...ภาษาจีนค่ะ ผู้เขียนจึงต้องซื้อแบบงง ๆ โดยการนำเงินหยวนขึ้นมาจากกระเป๋าแล้วให้เค้าชี้ว่าเท่าไหร่เธอก็ชี้ บอกว่า 10 หยวน (ค่าเงินหยวน 1 หยวน = 5.5 บาท) ผู้เขียนจึงเริ่มการต่อ รองราคาโดยยื่นแบงค์ 1 หยวนให้ไป 2 ใบ (ก็เท่ากับ 2 หยวนนั่นเอง) ในใจก็คิดว่าเขาจะให้หรือเปล่านะ แม่ค้ามองหน้างง ๆ แล้วก็พูดเป็นภาษา จีนต่อพร้อมกับพยักหน้าหงึก ๆ เธอหยิบกล่องใส่ถุงให้แล้วหยิบเงินไป จากมือผู้เขียน ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก ๆ ในชีวิตเพิ่งเคยต่อราคาเป็นครั้งแรก ที่สำคัญครั้งแรกของฉันเกิดที่ประเทศจีน (อยากจะหัวเราะให้พื้นสะเทือน จริง ๆ) พอได้ของติดมือนิดหน่อยผู้เขียนก็เดินเข้าที่พัก เพราะตอนนี้ อากาศเริ่มเย็นมากขึ้นแล้ว และจมูกของผู้เขียนก็เย็นเฉียบแล้วค่ะ

จีน


          เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นตั้งแต่ตี 5 เป็นการเที่ยวที่สนุกปนทรมานมาก ๆ เพราะดูจากโปรแกรมแล้วพวกเราตั้งตื่นเวลานี้เกือบทุกวัน กว่าจะถึงกรุงเทพฯ ผู้เขียนคงหง่อมไปทั้งตัวแน่นอน วันนี้พวกเราต้องออกจาก ต้าหลี่ ไป ลี่เจียง ระหว่างทางนั้นค่อนข้างสาหัสเอาการ เพราะต้องนั่งรถ ประมาณ 4 ชั่วโมง ที่สำคัญคือเส้นทางเป็นเขาตลอดทาง ดังนั้น "โค้ง" จึง เยอะมาก ๆ แต่พี่ตี๋ใหญ่ (คนขับรถชาวจีนหน้าตาประมาณตี๋ใหญ่ค่ะ) ขับรถได้ดีมาก ไม่มีใครเมารถเลยสักกะคน

          ระหว่างทางเห็นไร่นาตลอดทาง บรรยากาศที่นี่ค่อนข้างเงียบและสงบ จีนนับเป็นประเทศที่มีการพัฒนา ไม่มากนัก ผู้คนยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม ๆ ข้าวของเครื่องใช้ยังไม่ทันสมัยเหมือนบ้านเรา แต่ระบบการใช้ชีวิตของเขาดี มีการสบับสนุนจากรัฐบาล ในทุกเรื่อง ทั้งเรื่องของการเกษตรและการท่องเที่ยว

          ผ่านไป 4 ชั่วโมงพวกเราก็ถึง "สระน้ำมังกรดำ" เป็นสระน้ำขนาดกว้าง โดยรอบโอบอุ้มด้วยทิวทัศน์ที่งดงามของธรรมชาติ บริเวณด้านกลางของ สระน้ำมีศาลาเล็ก ๆ (ศาลามีจันทร์) ตั้งอยู่ ชาวจีนมีความเชื่อว่าสระน้ำ แห่งนี้เคยมีมังกรอาศัยอยู่ และมังกรมักจะออกมาทำร้ายผู้คน จึงต้องมีการสร้างศาลาเพื่อกดทับมังกรเอาไว้ไม่ให้ออกมาทำร้ายผู้คน จุดที่สวยที่สุด ของที่นี่คือ "น้ำ" เนื่องจากน้ำภายในสระใสสะอาดมากจน สามารถมองสะท้อนเห็นภาพทิวทัศน์โดยรอบได้เลย ถือเป็นมุมที่สวยที่สุดอีกแห่งหนึ่งของจีนเลยค่ะ

          พวกเราเดินรอบสระมังกรดำได้ประมาณครึ่งรอบก็เริ่มปวดขาแล้ว เพราะสระมีขนาดกว้างมาก ผู้เขียนจึงขอนั่งพักบริเวณโต๊ะม้าหินที่ตั้งอยู่ มองเห็นชาวจีนหลายคนนั่งเล่นหมากรุกจีนกันอยู่ ผู้เขียนจึงเดิน ไปเมียง ๆ มอง ๆ อยู่สักพักก็โดนคณะทัวร์เรียกเดินต่อ ผู้เขียนเดินมาถึงสะพานข้ามที่เขาเรียกกันว่า "สะพานห้าโค้ง" มองดูน้ำที่สะท้อนภาพ สะพานแล้วสวยมากค่ะ เดินต่อมาเรื่อย ๆ จะพบกับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะตงปา ด้านในมีภาพเขียนและอักษรตงปาให้ชมมากมาย ใครใคร่ซื้อก็จัดการต่อ ราคากันเองแล้วกันค่ะ

          ปิดท้ายวันนี้ด้วยการเดินเล่นที่ "เมืองโบราณลี่เจียง" ซึ่งจะมีบรรยากาศ คล้าย ๆ กับเมืองโบราณต้าหลี่ แต่มีขนาดใหญ่กว่าและน่าเดินมากกว่า แต่ด้วยความอ่อนล้าเพราะเดินทางมาทั้งวันผู้เขียนจึงขอเข้าไปงีบตั้งแต่ยังไม่ หัวค่ำ และกะว่าพรุ่งนี้ตอนกลางวัน จะพาเดินชมเมือโบราณลี่เจียงกันแบบเต็ม ๆ ค่ะ




ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ตะลุยแดนมังกร ชมเมืองโบราณอายุเก่าแก่ อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:21:08 1,160 อ่าน
TOP