x close

คานส์-อาร์ลส์-มาร์เซย์ ชวนทิ้งใจไว้ที่ฝรั่งเศสใต้

 

คานส์

คานส์



คานส์-อาร์ลส์-มาร์เซย์ ชวนทิ้งใจไว้ที่ฝรั่งเศสใต้ (Lisa)

            ทอดน่องไปใน 3 เมืองงามของฝรั่งเศสใต้ ที่หนุ่มสาวนักเดินทางหลายคนต้องมนต์โรแมนติกจนยากจะถอนตัว ดินแดนแถบฝรั่งเศสตอนใต้ขึ้นชื่อมานานนับพันปี ว่าเป็นดินแดนแห่งความโรแมนติก นั่นเพราะมีแดดอุ่น ๆ ให้ได้สัมผัสกว่า 8 เดือนในรอบปี นอกจากนั้น อาหาร ผัก และผลไม้ของถิ่นนี้ก็มีรสชาติแสนวิเศษ

          นี่ยังไม่นับรวมถึงการเป็นถิ่นกำเนิดของไวน์รสเลิศและน้ำหอมที่มีกลิ่นนุ่มละมุน 3 เมืองที่ทรงเสน่ห์ของดินแดนนี้อย่างคานส์ อาร์ลส์ และมาร์เซย์ ยังได้ชื่อว่าเป็นบ้านของงานศิลปะชื่อก้องโลก ฯลฯ ในโอกาสแห่งการเฉลิมฉลองเช่นวันนี้ การได้พาไปสัมผัสที่สถานที่สุดวิเศษเช่นนั้นจึงเป็นเรื่องที่ควรทำอย่างยิ่ง


คานส์นอกเทศกาลหนัง

            คนที่เป็นคอภาพยนตร์ตัวจริงคงไม่มีใครที่ไม่รู้จักเมืองคานส์ เสน่ห์ของเมืองงามแห่งนี้ไม่ได้มีเฉพาะ แต่ช่วงที่จัดเทศกาลหนังเท่านั้น เพราะหาดทรายสายลม และแสงแดดที่คานส์ก็น่าหลงเสน่ห์ไม่เบา ยิ่งในช่วงที่พระอาทิตย์จะลาลับขอบฟ้า การได้นั่งชมข้างคนรู้ใจพร้อมจิบไวน์ดีๆ สักแก้วที่เกาะ St. Honorat บอกได้คำเดียวว่าสวรรค์เล็กๆ อยู่ตรงหน้านี่เอง

            หากจะเดินทอดน่องชมบ้านชมเมืองแบบได้บรรยากาศจริงๆ ควรเริ่มต้นกันที่ถนน Boulevard de la Croisette ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลกับ The Palais des Festivals สถานที่จัดเทศกาลหนังเมืองคานส์ ทั้งสองฟากฝั่งของถนนสายนี้เต็มแน่นไปด้วยร้านรวงของสินค้าแบรนด์เนมสุดหรูที่น่าจะถูกใจสาวนักช้อปทั้งหลาย เมื่อเดินมาจนถึงจุดสิ้นสุดของถนนก็ควรเดินมาต่อกันถนน Place de la Castre ซึ่งปลายสุด ของถนนเส้นนี้อยู่บนยอดเขาซึ่งเป็นจุดที่เหมาะอย่ายิ่งสำหรับการชมคานส์ในมุมสูง นอกจากนั้น ยังเป็นที่ตั้งของโบสถ์ Notre-Dam d’Esperance ศิลปะแบบโกธิคอันงามสง่าที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17



อาร์ลส์


หอมกลิ่นโรมันที่เมืองอาร์ลส์

            เมืองอาร์ลส์ (Arles) เป็นบ้านเมืองเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยที่โรมยังเป็นศูนย์กลางของโลก เล่าต่อกันมาว่า 46 ปีก่อนคริสตกาล จูเลียส ซีซาร์ พร้อมกองทัพออกตระเวนล่าเมืองขึ้นมาตามแม่น้ำโรน (Rhone river) จนกระทั่งมาพบอาร์ลส์และได้สถาปนาให้เป็นเมืองท่าสำคัญ และเมื่อเป็นเมืองที่มีความเป็นมายาวนานจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่อาร์ลส์จะหลอมรวมไปด้วยมรดกศิลป์หลายสมัยโดยเฉพาะอย่างยิ่งอารยธรรมแบบโรมัน ดังนั้น อาร์ลส์จึงถือเป็นหนึ่งใน 5 เมืองท่องเที่ยวของโลก ที่ส่องสะท้อนให้เห็นถึงความรุ่นเรืองของอาณาจักรโรมันในอดีต

            หากมาถึงอาร์ลส์แล้วถ้าไม่ได้ไปชม Place de la Republique หรือศูนย์กลางเมืองก็เท่ากับว่ามาไม่ถึงอาร์ลส์ ที่สำคัญรอบๆ สถานที่แห่งนี้ก็รายรอบไปด้วยสถานที่สำคัญตั้งแต่สมัยจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Cryptoportiques หรือศูนย์กลางการปกคอรงและศาสนาในสมัยโบราณ และเมื่อเดินต่อมาอีกหน่อยก็จะมาถึง Amphitheatre d’Arles หรือโรงละครที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่คริสต์ศักราชที่ 80 ว่ากันว่าเมื่อครั้งที่อาร์ลส์ถูกภัยสงครามรุกราน ชาวเมืองต้องเข้ามาหลบภัยกันที่นี่ ซึ่งกิจกรรมที่น่าตื่นตาของโรงละครแห่งนี้ ในปัจจุบันก็คือการสู้วัวกระทิงที่จัดขึ้นในฤดูร้อนของทุกปี อ้อ! อาร์ลส์ยังเป็นเมืองที่มีศิลปิน นามอุโฆษอย่าง Vincent van Gogh เคยใช้อาศัยเพื่อสร้างสรรค์งานศิลปะมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1888 ด้วยนะ



 มาร์เซย์


มาร์เซย์เมืองเล็ก ๆ ที่เต็มไปด้วยสีสัน

            มาร์เซย์ถือเป็นเมืองคู่แฝดของเมือง Aix-en-Provence ซึ่งเองทั้งสองตั้งอยู่ห่างกันเพียงแค่ 30 นาที ของการเดินทางเท่านั้น ในขณะเดียวกันขนาดของเมืองและจำนวนประชากรก็มีขนาดที่ใกล้เคียงกัน ที่สำคัญทั้งสองเมืองก็ยังเป็นเมืองท่าที่มีประวัติศาสตร์ร่วมกันอีกด้วย

            สถานที่ที่ควรไปเยี่ยมชมแห่งแรกเมื่อมาถึงมาร์เซย์ก็คือโบสถ์ Cathedral de la Major ซึ่งเป็นโบสถ์ที่สร้างด้วยหินอ่อนสีชมพูทั้งหลัง โดยสร้างมาตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 19 ความงามที่ทรงเสน่ห์ของโบสถ์หลังนี้ก็คืองานแกะสลักหินที่เป็นเรื่องราวตามพระคัมภีร์ที่อ่อนช้อยยิ่งนัก เมื่ออิ่มใจกับโบสถ์หินอ่อนสีชมพูหลังนี้แล้วก็ควรไปเยี่ยมชมโบสถ์ Basilique Notre-Dame de la Garde ซึ่งเป็นโบสถ์ ที่ตั้งโดดเด่นเป็นศรีสง่าบนภูเขา ภายในโบสถ์ตั้งรูปพระแม่มารีเป็นองค์ประธาน เล่ากันว่าในสมัยก่อนคงแถบนี้มักมาขอพรกับพระนางเพื่อให้การเดินเรือปลอดภัย และเมื่อเดินเรือปลอดภัยกลับมาแล้วก็มักจะนำเอาเครื่องแขวนมาเป็นของแก้บนกับพระนาง ดังนั้น ในสมัยก่อนจึงมองแทบไม่เห็นเพดานโบสถ์เลยล่ะ แต่เมื่อกาลเวลาผันผ่านทางเทศบาลของมาร์เซย์ก้ได้ปรับปรุงให้เหลือไว้ แค่เป็นอนุสรณ์ชิ้นสวยเท่านั้น

Fast Facts

             การเดินทางไปประเทศฝรั่งเศสต้องติดต่อขอทำวีซ่า ล่วงหน้า 1-2 เดือนเป็นอย่างน้อย สามารถแวะเข้าไปชมรายละเอียดการขอวีซ่าได้ที่ http://www.ambafranceth.org/ (เอกสารประกอบการทำวีซ่าทั้งหมดต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้นและ Medical Insurance ต้องทำกับบริษัทที่ทางสถานทูตรับรองเท่านั้น)

             สายการบินที่คนไทยนิยมใช้บริการมากที่สุดคือแอร์ฟรานซ์ ซึ่งเป็นสายการบินแห่งชาติที่มีเที่ยวบินเชื่อมต่อระหว่างกรุงเพทฯ และปารีสวันละหลายเที่ยวบิน แวะชมข้อมูลและสำรองที่นั่งได้ที่ www.airfrance.com

             สำหรับการเดินทางจากปารีสสู่เมืองทั้ง 3 ที่สะดวกที่สุดคือการใช้บริการรถไฟด่วนพิเศษ TGV จากปารีสสู่เมืองมาร์เซย์ซึ่งตั้งอยู่ห่างไกลที่สุดจะใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 3 ชั่วโมง แวะชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.tgv.com

 Extra Tips

             ฤดูกาลที่เหมาะกับการมาท่องเที่ยว 3 เมืองงามแห่งฝรั่งเศสใต้มากที่สุด คือตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-สิงหาคมของทุกปี เพราะเป็นช่วงที่อากาศดีมากๆ คือมีอุณหภูมิระหว่าง 17-23 องศาเซลเซียส

             หากใครที่เดินทางมาเมืองอาร์ลส์เพื่อเสพงานศิลป์ฝีมือศิลปินนามอุโฆษอย่าง Vincent van Gogh ก็ต้องบอกตามตรงว่าที่อาร์ลส์ไม่ปรากฏงานของเขาเลยสักชิ้น นั่นก็เพราะว่าเวลานั้น van Gogh ส่งผลงานของเขาไปขายที่อื่นทั้งหมดโดยเฉพาะที่ปารีส แต่หากต้องการมาสัมผัสบรรยากาศจริงที่ปรากฏในภาพวาดของเขาหลายๆ ชิ้นก็จะไม่ผิดหวังแม้แต่น้อย

             ของกินที่เลื่องชื่อมากที่สุดของมาร์เซย์ก็คือขนม Four des Navettes ซึ่งเป็นขนมประจำเมืองที่ปรากฏหลักฐานมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 ลักษณะพิเศษของขนมชนิดนี้คือเป็นบิสกิตรูปเรือไม้ เนื้อขนมค่อนข้างแข็งมาก ๆ แต่ถ้าได้จิ้มจุ่มกับชาร้อน ๆ หรือกาแฟอุ่น ๆ ก็จะกลายเป็นขนมที่มีรสชาติอร่อยอย่างประหลาดขึ้นมาทันที



ขอขอบคุณข้อมูลจาก

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก travel-destination-pictures.com the-colosseum.net , panoramio.com

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
คานส์-อาร์ลส์-มาร์เซย์ ชวนทิ้งใจไว้ที่ฝรั่งเศสใต้ อัปเดตล่าสุด 16 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14:14:14 1,754 อ่าน
TOP