x close

เดินทางแบบเนิบ ๆ บนเส้นทางสายน่าน ดินแดนแห่งขุนเขา

น่าน

          ดูเหมือนว่า 2-3 ปีที่ผ่านมา ชื่อของ "น่าน" เมืองเล็ก ๆ ที่ถูกโอบล้อมไปด้วยขุนเขาแห่งนี้ จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางของผู้คนที่ต้องการไปใช้ชีวิตแบบ Slow Life เพลิน ๆ เนิบ ๆ ไม่ต้องเร่งรีบอะไร เสพทุกความรู้สึกรอบตัว เฉกเช่นเดียวกับ คุณม่วงมหากาฬ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้มีโอกาสเดินทางไปสัมผัสกับความเนิบ...เนิบ...ของเมืองน่าน และนำกลับมาถ่ายทอดความประทับใจผ่านบันทึกการเดินทางให้เราได้ชมกันค่ะ

 +++++++++++++++++++++

          คงเพราะความรู้สึกเมื่อได้ยืนบนดินแดนแห่งนี้ มันเหมือนเวลาที่เดินไปอย่างช้า ๆ องค์ประกอบต่าง ๆ รอบ ๆ กายค่อย ๆ เคลื่อนผ่านบนพื้นฐานของความสุข นี่กระมังที่เขาถึงเรียกกันว่า "น่านเนิบ ๆ"

          อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางบนเส้นทางสายธรรมชาติในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL

          ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนัง "กระซิบรักบันลือโลก" เพียงแลมองก็รู้สึกถึงมนตร์ขลัง จนกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของน่านไป คงเหมือนกับดินแดนแห่งนี้ที่เต็มไปด้วยมนตร์เสน่ห์ของขุนเขา วิถีชีวิต และวัฒนธรรม

น่าน

          ผมกลับมาเยือนเมืองน่านอีกครั้งและเป็นครั้งที่สี่ในรอบปี แม้จะมาอีกสักสิบหรือยี่สิบครั้ง ผมก็ยังอยากมาอยู่ดี

น่าน

          "วัดภูมินทร์" กับภาพวาดของปู่ม่านย่าม่านกระซิบรักบันลือโลกคือจุดเริ่มต้นของบันทึกการเดินทางของผมในครั้งนี้ ความสวยงาม ความเลื่อมใส ความศรัทธาของผู้คนสัมผัสได้ตั้งแต่ย่างก้าวเข้ามาภายในวัด

น่าน

          "วัดพระธาตุช้างค้ำ" อีกหนึ่งวัดที่งดงาม เพียงแค่เดินข้ามถนนมาจากวัดภูมินทร์ก็จะพบกับความสวยงาม วัดต่าง ๆ ในตัวเมืองน่านจะอยู่ไม่ไกลกันนัก มีจักรยานสักคันหรือเดินชมเมืองไปอย่างเนิบ ๆ ผมว่าเพลินดีนะ...

น่าน

          ซุ้มลีลาวดีด้านหน้าพิพิธภัณฑสถานเมืองน่าน อีกจุดหนึ่งซึ่งอยู่ในละแวกเดียวกัน รอยยิ้มของนักท่องเที่ยวที่มาแอ็คท่าถ่ายรูปภายในซุ้ม เห็นแล้วก็พลอยมีความสุขไปด้วย

น่าน

          "วัดพระธาตุเขาน้อย" กับวิวทิวทัศน์ในมุมสูง องค์พระเกศาธาตุพระพุทธรูปยืนอย่างสง่าและงดงาม ประหนึ่งคอยปกป้องคุ้มครองผู้คนเมืองน่าน

น่าน

"ปัว" อำเภอเล็ก ๆ ของน่าน หากแต่ความสวยงาม ความอลังการของขุนเขาหาได้เล็กไม่

น่าน

อากาศที่บริสุทธิ์รายล้อมไปด้วยขุนเขา ทุ่งนาสีทองมองแล้วทำให้รู้สึกสบายใจ

น่าน

ผมเคยมาเยือนเมืองแห่งขุนเขาแล้วครั้งหนึ่ง และผมก็หลงรักจนอยากมาบ่อย ๆ

น่าน

          จากเมืองปัวผมลัดเลาะสู่เส้นทางดอยภูคา วิวทิวทัศน์ข้างทางบนความสูงรายล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่

น่าน

ทิวเขาหัวโล้นสลับกับพืชไร่ข้าวโพด เอกลักษณ์ของเมืองน่านโดยเฉพาะ

น่าน

          อาจดูไม่สบายตาไม่สบายใจในความรู้สึก ในความหัวโล้นถ้าเปลี่ยนเป็นต้นไม้สีเขียว ๆ คงจะดี แต่กระนั้นก็ดูแปลกตาและอลังการในความรู้สึก

น่าน

และยิ่งเพิ่มความยิ่งใหญ่อลังการขึ้นไปอีก เมื่อสายหมอกชโลมขุนเขา

น่าน

          สิ่งเหล่านี้กระมังที่หล่อหลอมจูงใจให้ผู้คนมาเดินเนิบ ๆ ที่ดินแดนแห่งนี้ ไม่เว้นแม้แต่ผมที่หลงเสน่ห์และกลับมาเยือนอีกครั้ง

น่าน

ลานดูดาวของอุทยานแห่งชาติชมพูภูคา จุดกางเต็นท์พักแรมที่บรรยากาศใช้ได้ทีเดียว

น่าน

          ยามนี้ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ดอกนางพญาเสือโคร่งที่ลานดูดาวร่วงโรยลงตามกาลเวลา หลงเหลือเพียงบางส่วนที่น้อยนิดไว้ให้เชยชม

น่าน

          "บ่อเกลือ" อีกหนึ่งอำเภอในหุบเขาเมื่อเดินทางเลยจากดอยภูคาออกไป ความเจริญของสังคมเมืองอาจเทียบไม่ได้กับปัว วิถีชีวิตแบบดั้งเดิมนี่แหละคือมนตร์เสน่ห์ที่น่าสัมผัส

น่าน

          แต่หากวันหนึ่งความเจริญย่ำกราย นักท่องเที่ยวแห่แหนกันเข้ามา ถึงเวลานั้นคำถามน่าจะเกิดขึ้นมากมาย และมนตร์เสน่ห์ของบ่อเกลือยังน่าจะหลงใหลอยู่หรือไม่

น่าน

บ่อเกลือในวันนี้มีทั้งไร่สตรอว์เบอร์รี มีร้านอาหารสวย ๆ ริมน้ำ มีรีสอร์ทหรู ๆ ผุดขึ้นบ้างตามยุคสมัย

น่าน

แต่โดยรวมทั่วไปก็ยังคงรูปแบบและวิถีชีวิตในแบบชนบทพึ่งพิงอิงแอบธรรมชาติ

น่าน

          ในยามเช้าที่สายหมอกล่องลอยเหนือผืนนาข้าว สร้างความประทับใจได้ไม่แพ้ทะเลหมอกที่ฟูฟ่อง

น่าน

          หากเปรียบกับดอกไม้ที่กำลังผลิบาน บ่อเกลือในวันนี้ก็กำลังอยู่ในช่วงแรกแย้ม จะผลิบานสดสวยหรือจะร่วงโรยก่อนเวลาขึ้นอยู่กับการดูแล

น่าน

          วันนี้เมืองในซอกหลืบของขุนเขาที่ยังคงความงดงาม และทำให้ผู้มาเยือนอย่างผมรู้สึกประทับใจ มีโอกาสผมคงได้กลับมาเยือนอีกครั้งอย่างแน่นอน

น่าน

          จากบ่อเกลือผมเลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอเฉลิมพระเกียรติ "อุทยานแห่งชาติขุนน่าน" ตั้งอยู่ริมถนนสายหลักเลยจากบ่อเกลือออกมาประมาณ 6-7 กิโลเมตร ป้ายบอกอุทยานฯ ที่มีให้เห็นตลอดเส้นทางเชิญชวนให้เข้าไปสัมผัส ในวันธรรมดาไร้ซึ่งนักท่องเที่ยว ทุกอย่างเงียบสงบ ท่ามกลางขุนเขา

น่าน

          หน่วยจัดการต้นน้ำห้วยแม่สะแตง อำเภอทุ่งช้าง ในยามเช้า แสงสีทองที่สาดส่องขุนเขาเผยให้เห็นถึงความงามของเทือกเขาที่สลับซับซ้อน

น่าน

          จากจุดเริ่มต้นในเมืองน่าน พลันออกมานอกเมือง ทุกอย่างทุกเส้นทางคือขุนเขาจริง ๆ ไม่แน่ใจนักว่าบ้านนี้เมืองนี้มีภูเขาเยอะที่สุดในประเทศหรือไม่ แต่ที่แน่ใจ คือ ไปทางไหนก็มีแต่คำว่างดงาม

น่าน

          ผมย้อนกลับมาทางอำเภอบ่อเกลือเพื่อไปยังอำเภอสันติสุข "พระตำหนักภูฟ้า" ที่ประทับของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ตั้งอยู่ระหว่างทางห่างจากบ่อเกลือราว 20 กิโลเมตร ครั้นเมื่อพระองค์ได้เสด็จมาเยี่ยมราษฎรที่อำเภอบ่อเกลือ ทรงจัดตั้งศูนย์ภูฟ้าพัฒนาขึ้น เพื่อเป็นสถานที่ในการถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีให้กับประชาชนทั่วไป

น่าน

          ในยามเช้าที่สายหมอกปกคลุมเกือบท่วมขุนเขา เรื่องราวของการเดินทางทุกวินาทีมีแต่ความตื่นเต้นและความสวยงาม

น่าน

บางทีเรื่องราวระหว่างทางก็เชิญชวนให้เราได้จดจำมากกว่าจุดหมายปลายทางเสียอีก

น่าน

          เส้นทางจากบ่อเกลือมายังสันติสุข เส้นทางลอยฟ้าที่วิ่งลัดเลาะไปตามขุนเขา เรื่องราวระหว่างทางมีให้ได้เก็บเกี่ยวความสุขตลอดเส้นทาง

น่าน

ต้นเดือนกุมภาพันธ์ขุนเขาที่เคยเขียวขจีแปรเปลี่ยนเป็นสีทอง

น่าน

          ไร่ข้าวโพดที่เก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นลง หลงเหลือแต่ความเหี่ยวแห้ง วัฏจักรของวิถีชีวิตในการทำมาหากินเลี้ยงชีพ

น่าน

          สายฝนในฤดูใหม่คงทำให้ทุกอย่างกลับมาเขียวอีกครั้ง ช่วงเวลาที่เหลือคงได้แต่รอ รอเพื่อกลับมาเริ่มต้นเพาะปลูกพืชไร่อีกครั้ง

น่าน

          ต้องยอมรับว่าเส้นทางสายนี้เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่สวยงาม "บ่อเกลือ-สันติสุข" เส้นทางบนความสูงชัน ที่ทำให้รู้สึกเหมือนเราได้โบยบินไปตามทางที่สวรรค์ปูพรมเอาไว้

น่าน

          "อุทยานแห่งชาติแม่จริม" อุทยานฯ เล็ก ๆ ที่อาจไม่โด่งดังเหมือนที่อื่น ๆ ภายในจังหวัด ตั้งอยู่อำเภอแม่จริมและอำเภอเวียงสา ห่างจากตัวเมืองน่านราว 50 กว่ากิโลเมตร

น่าน

          จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติแม่จริม คงเป็นการล่องแก่งลำน้ำว้า เส้นทางศึกษาธรรมชาติ รวมถึงการสัมผัสวิถีชีวิตของชาวเขาบ้านร่มเกล้า

น่าน

          ผมยังจำเรื่องราวของฤดูร้อนที่ผ่านมาได้ดี อีกหนึ่งเส้นทางที่งดงามไม่แพ้เส้นทางอื่น ๆ "สองแคว-ท่าวัง" เช้าวันนั้นผมเดินทางออกมาจากภูลังกา มุ่งหน้าสู่น่านบนเส้นทางสายนี้ และนั่นก็เป็นครั้งแรกที่ผมมาจังหวัดนี้

น่าน

          "อุทยานแห่งชาติถ้ำสะเกิน" อยู่ห่างจากเมืองน่านประมาณ 112 กิโลเมตรบนเส้นทาง "ท่าวังผา-สองแคว" จุดชมวิวที่ดูธรรมดาแต่หากเป็นช่วงฤดูหนาวที่นี่คือสวรรค์ของคนชื่นชอบทะเลหมอก


น่าน

          "อุทยานแห่งชาติศรีน่าน" อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิต โดยใช้เส้นทางไปยังอำเภอเวียงสาสู่อำเภอนาน้อย ระยะทางราว 70 กว่ากิโลเมตร

น่าน

          "ดอยเสมอดาว" แหล่งท่องเที่ยวของอุทยานฯ ศรีน่าน ความสวยงามของขุนเขาและทะเลหมอกในยามเช้า ทำให้มีนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมเยือนกันอย่างไม่ขาดสาย

น่าน

          ที่ดอยเสมอดาวนี่เองที่เป็นจุดเริ่มต้นทำให้ผมหลงรักน่าน เพียงครั้งแรกที่ได้สัมผัสที่นี่ มันทำให้ผมอยากรู้ อยากรู้ว่าสถานที่อื่น ๆ ของน่านจะสวยงามเหมือนกับที่นี่หรือไม่

น่าน

          4 ครั้ง ที่ผมได้เดินทางแบบเนิบ ๆ บนเส้นทางสายน่าน ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านเข้ามามันคือประสบการณ์ที่มีคุณค่า และผมก็ไม่เคยผิดหวังกับมันเลยสักครั้ง

น่าน

          ขากลับจากน่านลงสู่ภาคกลาง ผมใช้เส้นทางจากนาน้อยไปยังนาหมื่นสู่หมู่บ้านชาวประมงปากนาย เพื่อเอารถข้ามแพไปยังอีกฟากสู่อำเภอน้ำปาด ลงไปยังอุตรดิตถ์

น่าน

          หมู่บ้านชาวประมงปากนาย บรรยากาศโดยรอบที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขา สายน้ำที่สงบนิ่งจากเขื่อนสิริกิติ์ ทำให้ดินแดนแห่งนี้เหมาะสำหรับการพักผ่อน

น่าน

          อาชีพหลักของชาวบ้านแถบนี้คงหนีไม่พ้นการทำประมง ที่นี่มีร้านอาหาร มีบ้านพักที่เป็นแพให้เลือกหา แม้จะดูเปลี่ยวไปบ้าง แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ดูแล เพราะอยู่ในเขตของอุทยานฯ ศรีน่าน

น่าน

          สายน้ำที่สงบเงียบคงเปรียบได้กับวิถีชีวิตที่สงบเรียบง่าย ตั้งแต่จุดเริ่มต้นจนสุดทางที่กำลังจะออกจากน่าน ทุกเรื่องราวเป็นอะไรที่พิเศษที่สุดสำหรับผม

น่าน

          การจากลาไม่เคยมีอยู่จริง แค่คิดก็เหมือนได้เริ่มต้นเดินทางอีกครั้ง...ขอบคุณทุกท่านที่ร่วมเดินทางไปกับบันทึกการเดินทางของผม สวัสดีครับ...

          อีกหนึ่งพื้นที่การเดินทางบนเส้นทางสายธรรมชาติในแบบฉบับของผม ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL

น่าน


ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณม่วงมหากาฬ สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก ม่วงมหากาฬ LIFE FOR TRAVEL


เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เดินทางแบบเนิบ ๆ บนเส้นทางสายน่าน ดินแดนแห่งขุนเขา อัปเดตล่าสุด 8 พฤศจิกายน 2562 เวลา 14:26:43 4,601 อ่าน
TOP