x close

ท่องเที่ยวเกาะเชจู สัมผัสเพชรเม็ดงามแห่งเกาหลีใต้

เกาะเชจู

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ neju11 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก Nejuphoto

          วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเยือน "เกาะเชจู" (Jeju Island) เกาะที่มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวไม่แพ้เมืองใหญ่อื่น ๆ ในเกาหลีใต้ จากบันทึกการเดินทางของ คุณ neju11 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่มีโอกาสไปสัมผัสประสบการณ์ต่าง ๆ ณ  เกาะเชจู ทั้งเช่ารถขับเที่ยวหรือปีนภูเขาไฟ Hallasan ลองตามไปดูว่าเกาะเชจูจะงดงามขนาดไหน ^^

          อ๊ะ ๆ แต่ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับเกาะเชจูกันสักนิดนะคะ สำหรับเกาะเชจูอยู่ทางใต้ของโซล เป็นหนึ่งในจังหวัดทั้งเก้าของประเทศเกาหลี หากคุณเดินทางโดยเครื่องบินจากโซลจะใช้เวลาเพียง 1 ชั่วโมง หรือจะเดินทางมาโดยเรือเฟอร์รี่ก็ได้ และเนื่องจากเป็นจังหวัดที่แยกออกไปจากแผ่นดินใหญ่ มีบรรยากาศโรแมนติกแบบประเทศในเขตร้อน โดยมีสี่ฤดูและอากาศอบอุ่นสบายอุณหภูมิโดยเฉลี่ย 15 องศาเซลเซียส ตลอดทั้งปี และนับเป็นโชคดีที่มีทัศนียภาพที่งดงามของธรรมชาติที่สร้างโดยการกระทำต่าง ๆ ของภูเขาไฟเอง อีกทั้งยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าไปเยี่ยมชมมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุทยานแห่งชาติภูเขาฮัลลาซาน, สวนทัมนา มกซกวอน และโขดหินยงดูอัม ฯลฯ (ดูเพิ่มเติมได้ที่ www.kto.or.th) เอาล่ะ ! พอรู้จักทักทายกันพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็ได้เวลาไปตะลุยชมความงามของเกาะเชจูกันแล้ว


++++++++++++++++++++++++


          สวัสดีเพื่อน ๆ ที่มีหัวใจรักการท่องเที่ยว

          ความสมบูรณ์ในธรรมชาติ...คุณให้นิยามคำนี้กับสถานที่ใด ?


          ช่วงที่ผมเขียนรีวิวนี้ ผมสัมผัสได้ถึงลมหนาวเบา ๆ บรรยากาศชวนนอนต่อเหลือเกิน... (นอกเรื่องแป๊บ) เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ผมได้ไปประเทศในเอเชียอีกหนึ่งประเทศนั่นคือ เกาหลีใต้ ถ้าพูดถึงเกาหลีใต้ หลายคนจะนึกถึงความทันสมัย เครื่องสำอาง ความเจริญ และ...(ไม่ขอเอ่ยถึง ^^) แต่ในความเจริญเหล่านั้น ห่างจากดงเครื่องสำอางอย่างเมียงดงโดยนั่งเครื่องบินประมาณ 1 ชั่วโมง ลงมาที่เกาะทางใต้ของประเทศ คุณกลับได้เห็นความสมบูรณ์ในธรรมชาติบนเกาะเล็ก ๆ แต่อัดแน่นด้วยคุณภาพอย่าง "เกาะเชจู"

          เกาะที่ในซีรีส์หลายเรื่องจะต้องพูดถึง เกาะที่เป็นเหมือนเกาะตากอากาศ เกาะที่เป็นบ้านเกิดของนางเอก ได้ยินบ่อยครั้งจนอยากมาสัมผัสด้วยตาตัวเองสักครั้ง แล้วเชื่อได้เลยว่านิยามความสมบูรณ์ในธรรมชาติของคุณอาจถูกเปลี่ยนมาเป็นที่นี่..."Perfection-Jeju Island..."

เกาะเชจู

          ป.ล. สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการติดตามหรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Nejuphoto

          ป.ล. 2 สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรีวิวถ้า ถูกใจ ชอบใจ ขอกำลังใจคนทำรีวิวด้วยนะครับ ^^

          สำหรับอุปกรณ์ที่ใช้ในการถ่ายภาพในทริปนี้

          - Nikon D81
          - Lens : Nikkor 17-55 f/2.8, Nikkor 10-24, Tamron 70-300 VC

สารบัญ...บันทึกการแบกเป้เที่ยวนอก

          เผื่อไว้ใช้ในยามจำเป็น ในการหาข้อมูลไปยังสถานที่ต่าง ๆ ^^

          เกาหลีใต้-ใบไม้เปลี่ยนสี 

          ฮ่องกง-มาเก๊า 

          มาเลเซีย-เกาะเรดัง

          ญี่ปุ่น-Snow wall 

          ญี่ปุ่น-Tokyo

          กัมพูชา-นครวัด นครธม 

          พม่า-ย่างกุ้ง พุกาม มัณฑะเลย์

          จีน-เฟิ่งหวง จางเจียเจี้ย

          อินเดีย-ทัชมาฮาล

          อินเดีย-โกลกัตต้า 

          เวียดนาม-ฮานอย ซาปา 

          การเดินทางเริ่มต้นจากสนามบิน Gimpo International Airport โดยสายการบิน Jeju Air สนามบิน Gimpo จากโซลจะอยู่ถึงก่อนสนามบินอินชอนครับ ระวังไปผิดสนามบินนะครับย้ำอีกครั้ง ^^



          ใช้เวลาในการเดินทางจากโซล มาเกาะเชจูประมาณ 1 ชั่วโมง



          เกาะเชจู มีเสน่ห์เหมาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับผู้คนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ผู้ที่ชื่นชอบเดินทางท่องเที่ยว ผู้ที่รักความเป็นอิสระ หรือผู้สูงอายุ เกาะเชจูเป็นสวรรค์สำหรับทั้งผู้ที่กำลังมองหาสถานที่เพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ และผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางทะเล นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เดินทางมาที่นี่โดยเครื่องบินมาลงที่สนามบินบนเกาะเชจู หรือเลือกใช้บริการเรือข้ามฟาก (เฟอร์รี่) จากเมืองต่าง ๆ บนแผ่นดินใหญ่ได้เช่นเดียวกัน

          ลักษณะของเกาะแบ่งแบบง่ายเป็นเหนือกับใต้ ทางเหนือของเกาะหรือที่เรียกว่า Jeju ทางใต้เรียกว่า Seogwipo (ซกวิโพ) โดยมีภูเขาไฟ Hallasan (ภูเขาไฟที่ดับแล้วและสูงที่สุดในเกาหลีใต้) อยู่ตรงกลางเกาะ

เกาะเชจู

           มาดูงบประมาณ รวมตั๋วเครื่องบินจากโซล รวมที่พัก จำนวน 2 วัน 1 คืน ที่ผมปลีกตัวจากโซลมายังเกาะเชจูแห่งนี้ ทั้งหมดตกคนละประมาณ 8,500 บาท

//haadmin.kapook.com//img.kapook.com/u/kantana/Travel%20(5)_1.jpg

          ทริปนี้เป็นการเช่ารถขับที่ต่างประเทศครั้งแรกของผม แถมที่เกาหลีใต้เป็นพวงมาลัยซ้ายอีกด้วย การไปเช่ารถขับที่ต่างแดนอย่างแรกที่ต้องเตรียม คือ ใบขับขี่สากล สามารถไปทำได้ที่กรมขนส่ง ตรงจตุจักร ผมใช้เวลาในการทำประมาณ 10 นาที ไม่มีการสอบใด ๆ เสียค่าบริการ 505 บาท และรอรับวันนั้นได้เลยครับ

เกาะเชจู

          จองรถล่วงหน้าผ่านทางเว็บไซต์ www.ajrentacar.co.kr แต่ก่อนจองรถควรมีใบขับขี่สากลให้เรียบร้อยซะก่อน และทำการสมัครสมาชิก แล้วเลือกรถที่อยากใช้ได้เลยครับ ราคาที่โชว์หน้าเว็บตอนแรกอย่าตกใจ เพราะกด next ไปเรื่อย ๆ ผลสุดท้ายจะมีการ discount ให้เองอีกที ราคาเช่าตกวันละ 6xx-7xx บาท ถือว่าไม่แพงครับ

เกาะเชจู

          เมื่อมาถึงสนามบินเตรียมเอกสารที่ทำการจองรถแล้วไปยื่นที่เคาน์เตอร์ AJ จากนั้นทางเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจเอกสารและให้เราไปขึ้นรถบัสเพื่อไปยังศูนย์บริการรถเช่าที่ตั้งอยู่ด้านนอกสนามบิน นั่งรถบัสไปประมาณ 2 นาที เมื่อถึงศูนย์บริการรถเช่า เตรียมเอกสารยื่นให้เจ้าหน้าที่อีกครั้งและทำการชำระเงินจะเป็นเงินสดหรือบัตรเครดิตก็ได้ครับ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะบอกทะเบียนรถ และตำแหน่งที่ตั้งของรถเช่าคันที่เราจองมา ตรวจสภาพรถก่อนซิ่งอีกรอบ

เกาะเชจู

          ตื่นเต้นดีครับกับการขับรถพวงมาลัยซ้ายในต่างประเทศครั้งแรก ><

เกาะเชจู

          รถทุกคันของที่นี่จะมี GPS ติดมาให้ด้วย วิธีใช้ในการนำทางคือการกรอกเบอร์โทรศัพท์สถานที่ที่คุณจะไปลงในพิกัด และที่น่าทึ่งมากสำหรับ GPS ติดรถอันนี้คือแม้กระทั่งลูกระนาด (ลูกคลื่นบนถนน) เจ้า GPS นี้ยังสามารถแจ้งเตือนได้ว่าจะพบในอีกกี่เมตรข้างหน้า รวมถึงในเขตที่จำกัดความเร็วจะมีการแจ้งเตือนเป็นระยะอีกด้วย ล้ำเว่อร์มากกกกกกกกก ^^

เกาะเชจู

          สำหรับสถานที่ต่าง ๆ ที่ผมลิสต์ไว้ให้ พร้อมเบอร์โทรศัพท์ เผื่อท่านใดสามารถนำไปใช้ต่อได้ในอนาคต

เกาะเชจู

          แรก ๆ ก็ไม่ชินกับการขับพวงมาลัยซ้าย แต่ขับไปเรื่อย ๆ เดี๋ยวก็ได้เองครับ ฮ่า ๆๆๆ วิวระหว่างทาง ยอดเขาที่เห็นไกล ๆ นั้นคือ Hallasan ซึ่งผมมีแพลนจะปีนในวันรุ่งขึ้น

เกาะเชจู

Cheonjiyeon Falls

          ใช้เวลาขับรถจากทางเหนือลงมาทางใต้ประมาณ 2 ชั่วโมง สถานที่แรกที่แวะคือ น้ำตก Cheonjiyeon หน้าทางเข้าน้ำตกจะเห็นหินรูปปั้นตั้งอยู่หลายตัว เรียกว่า โทลฮารูบัง (????) เป็นสัญลักษณ์ของเกาะเชจู หรือในภาษาไทยเรียกว่า "หินปู่" เป็นรูปปั้นที่สร้างจากหินลาวาของภูเขาไฟ โดยปั้นเป็นรูปเหมือนชายแก่ดูใจดี และมีความเชื่อว่าเป็นเหมือนผู้พิทักษ์เกาะ

เกาะเชจู

          น้ำตกนี้จอดรถและเดินเข้าไปไม่ไกล สะดวกสบาย แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำนะครับ

เกาะเชจู

Jeongbang Falls

          น้ำตกชองบัง (????) ตำนานเก่าแก่เล่าไว้ว่า ใต้น้ำตกนี้มีมังกรอาศัยอยู่ ดังนั้นจึงมีคนเชื่อว่าน้ำจากน้ำตกนี้เป็นน้ำวิเศษที่จะช่วยรักษาโรคต่าง ๆ ได้ แต่ความพิเศษของน้ำตกนี้อีกอย่าง คือ การไหลลงทะเล โดยทั่วไปแล้วแทบไม่มีให้เห็นน้ำตกแบบนี้

เกาะเชจู

เกาะเชจู

ที่พัก

          ทำเลที่ตั้งเป็นสิ่งสำคัญ เพราะผมอยากมาดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ที่จุด Sunrise Peak ของที่นี่ เลยเลือกที่พักที่ใกล้ที่สุด โดยจองผ่าน Expedia โดยเงื่อนไขที่ผมกรองในการจองที่พัก คือ มีอาหารเช้า มี Wi-Fi และมี air ซึ่งก็ได้ที่พักตามที่ต้องการ ในราคาคืนละ 2,000 บาท

เกาะเชจู

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          Jeju Suncity Guesthouse เป็น Guesthouse ที่ขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ทำเลที่ตั้งนั้นแจ่มจริง

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          วิวจากห้องพักสามารถมองเห็นภูเขา Seongsan Ilchulbong ได้อีก

เกาะเชจู

          อาหารเช้าทานในห้องนี้ แต่ต้องทำเอง ล้างจาน ล้างอุปกรณ์เองเหมือนบ้านที่เราอยู่จริง ๆ สนุกไปอีกแบบครับ

เกาะเชจู

Seongsan Ilchulbong Peak

          เย็นวันแรกนี้ผมจะพาขึ้นเขาชมเมืองเชจูมุมสูงกันก่อน บนยอดเขา Seongsan Ilchulbong

เกาะเชจู

          ซองซานอิลชุงบง (Seongsan Ilchulbong) หรือยอดเขาตะวันรุ่ง คือปากปล่องภูเขาไฟที่มีลักษณะที่เป็นรูปกรวยคว่ำมองคล้ายมงกุฎ และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากที่สุดในเชจู ใช้เวลาเดินไปกลับประมาณ 45 นาที (ไม่รวมเวลาถ่ายรูปเพลิน ๆ อยู่นาน ๆ)

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          ทางเดินช่วงแรก ๆ ค่อนข้างสบายหน่อย

เกาะเชจู

          วิวระหว่างทาง พระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลงทุกที ๆ

เกาะเชจู

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          ในช่วงท้าย ๆ ทางเดินจะชันขึ้นอีกหน่อย แต่ถ้าได้เห็นวิวระหว่างทางแล้ว หายเหนื่อยครับ ^^

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          ด้านบนสุดเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว

เกาะเชจู

          ผมอยู่รอถ่ายรูปตอนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า จะเห็นวิวที่มองลงมาจากด้านบนเป็นบ้านเมืองบนเกาะเชจูแห่งนี้สวยงาม คุ้มค่ากับการที่ได้ขึ้นมาบนนี้

เกาะเชจู

เกาะเชจู

เกาะเชจู

Black Pork Street

          ว่ากันว่าถ้ามาเกาะเชจูแล้วต้องลองทานอยู่ 3 อย่าง

          1. ช็อกโกแลตรสส้ม
          2. ส้มเกาะเชจู
          3. หมูดำ

          อาหารเย็นมื้อนี้ผมลงทุนขับรถจากที่พักเพื่อกลับเข้ามาตัวเมืองใช้เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อมาทานเจ้าหมูดำที่ขึ้นชื่อของที่นี่ ในย่านที่ขายหมูดำเฉพาะอย่าง Black Pork Street มีหลายร้านให้เลือก ลองพิจารณาร้านที่ชอบเองนะครับ เพราะลายตามากกกกกกกกก

เกาะเชจู

Viewpoint Sunrise

          เช้าวันรุ่งขึ้นผมขับรถไปชมพระอาทิตย์ขึ้นบริเวณใกล้ ๆ กับ Seongsan Ilchulbong Peak ที่เมื่อวานนี้ได้ปีนขึ้นไปด้านบน

เกาะเชจู

          คุ้มค่ากับการตื่นเช้าที่ได้มาเห็นบรรยากาศพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเลแบบนี้จริง ๆ

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          สวยงามมากครับ

เกาะเชจู

Seopjikoji

          โบสถ์นี้ใช้เป็นสถานที่ในการถ่ายทำซีรีส์มาแล้วหลายเรื่อง มีประภาคารริมทะเล มีทุ่งดอกหญ้า มีโบสถ์ ให้บรรยากาศโรแมนติกสุด ๆ

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          มีรถบริการให้เช่า ทั้งรถกอล์ฟ รถจักรยานแบบปั่นคู่ รถจักรยานแบบปั่นเดี่ยว แต่ผมเลือกเดินครับ ^^

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          มีมุมที่มองเห็นภูเขา Seongsan Ilchulbong จากไกล ๆ

เกาะเชจู

เกาะเชจู

Hallasan Mountain

          มาถึงสถานที่เที่ยวที่ผมได้แวะไปที่สุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องกลับมาที่โซล ที่นี่ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการมาเกาะเชจูนี้เลยก็ว่าได้ นั่นก็คือการเดินขึ้นภูเขา Hallasan ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้วและมีขนาดใหญ่ เป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศเกาหลีใต้

เกาะเชจู

          ก่อนจะขึ้นเขานั้นเราต้องมีการวางแผนและเตรียมตัวให้พร้อมก่อน เส้นทางขึ้นเขาลูกนี้มีทั้งหมด 7 เส้นทาง แต่มีเพียง 2 เส้นทางเท่านั้นที่ขึ้นไปถึงปากปล่องภูเขาไฟ เราควรประเมินความพร้อมของร่างกาย รวมถึงระยะเวลาที่ใช้ในการปีนขึ้นไปด้วย เนื่องจาก Hallasan นี้ไม่ให้นักท่องเที่ยวค้างคืนบนเขา แต่ละเส้นทางจะมีจุดพักและเวลาปิดไม่ให้ปีนขึ้นไปด้านบนตามช่วงฤดูด้วยครับ

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          ผมเลือกขึ้นเส้นทาง Yeongsil และกลับทางเดิม เนื่องจากเวลามีจำกัดต้องไปขึ้นเครื่องกลับโซลต่อทันที ระหว่างทางจะเห็นใบไม้เปลี่ยนสีสวยงามรายเรียงอยู่ข้างทาง

เกาะเชจู

          ถ้าขึ้นและลงทางเดิมแนะนำให้นำรถไปจอดที่จอดรถด้านบนได้เลย แต่ถ้าขึ้นและลงคนละทางแนะนำให้นำรถไปจอดที่เส้นทางทางลง และนั่ง Taxi หรือรถเมล์มาที่จุดเส้นทางทางขึ้นจะสะดวกกว่าครับ

เกาะเชจู

          เตรียมน้ำ เตรียมความพร้อมและออกเดินเท้ากันเลย

เกาะเชจู

          เส้นทางปีนเขาที่นี่แบ่งเป็น 3 ระดับ
          A = Easy
          B = Normal
          C = Difficult

          โดยเส้นทาง Yeongsil จะเรียงลำดับความยากง่ายคือ A-C-B

เกาะเชจู

          ระหว่างเดินขึ้นไม่ต้องตกใจไปเพราะจะเห็นเด็กเล็ก ๆ รวมไปถึงคนมีอายุประมาณ 70-80 ก็ยังขึ้นไปถึงยอดด้านบน ต้องบอกเลยว่าคนเกาหลีชอบการเดินขึ้นเขาเป็นชีวิตจิตใจ

เกาะเชจู

          ผ่านระดับความยากระดับ A (Easy) มาแล้ว ต่อมาจะเจอเส้นทางระดับ C (Difficult) กันแล้วครับ

เกาะเชจู

          ทั้งสูง ทั้งชัน ทั้งขั้นบันไดถี่ เห็นยอดเขาอยู่ไกล ๆ แต่เดินเท่าไรก็ยังไม่ถึงสักที

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          มีป้ายบอกให้กำลังใจระหว่างทางว่าเหลืออีกกี่กิโลเมตร จะถึงยอดด้านบน ><

เกาะเชจู

          ระยะทาง 3.7 กิโลเมตร แต่ผมกับเพื่อนใช้เวลาในการเดินขึ้นมาและถ่ายรูประหว่างทาง 2.30 ชั่วโมง และสิ่งที่อยู่ด้านหน้าผม นั่นคือ ยอดเขา Hallasan เขาที่สูงที่สุดในเกาหลีใต้

เกาะเชจู

          บรรยากาศด้านบนลมแรง อากาศเย็นใช้ได้เลย แต่วิวทิวทัศน์ด้านหน้านั้น ผมไม่อาจละสายตาได้ สวยงามคุ้มค่ากับการที่ได้ขึ้นมาจริง ๆ

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          ด้านบนมีจุดแวะพักสำหรับนักปีนเขา มีมาม่า กาแฟ เครื่องดื่มขาย มีห้องน้ำให้เข้าใช้

เกาะเชจู

          พักอยู่ด้านบนได้ไม่นานต้องรีบเดินลงกลับทางเดิม เพราะผมต้องไปขึ้นเครื่องกลับโซลในคืนนี้

เกาะเชจู

          ขาลงลงทางเดิมแต่บรรยากาศคนละแบบ เพราะตอนขึ้นมานั้นมีแต่หมอกบดบังวิว แต่ตอนขาลงสายหมอกที่จางลงเปิดให้เห็นวิวด้านหน้าว่าธรรมชาติแห่งนี้สวยงามแค่ไหน

เกาะเชจู

เกาะเชจู

          ระหว่างทางจะมีใบไม้เปลี่ยนสีให้ชมอยู่ตลอดสองข้างทาง

เกาะเชจู

          ขาลงระยะทางเท่ากัน 3.7 กิโลเมตร แต่จะใช้เวลาในการเดินลงเร็วกว่าขาขึ้น

เกาะเชจู

          จากทางลงเขา Hallasan ขับรถมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองเชจู ประมาณ 45 นาที แวะเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนคืนรถ และนำรถไปคืนที่ศูนย์บริการ AJ ที่เดิม

เกาะเชจู

          ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก ทั้งมันส์กับทริปสั้น ๆ 2 วัน 1 คืน บนเกาะเชจูแห่งนี้

เกาะเชจู

          เกาะที่มีความสมบูรณ์พร้อมในธรรมชาติหลาย ๆ อย่าง มีทั้งน้ำตก ภูเขา ภูเขาไฟ ทะเล ป่าไม้ และวัฒนธรรมที่สืบทอดต่อกันมา ผมว่าปัจจุบันนี้หายากแล้วนะกับความสมบูรณ์แบบนี้ แต่สิ่งที่คนอย่างรุ่นพวกเราสามารถทำได้คือการรักษาและดูแลให้มี ให้คงทน ให้อยู่ไปนาน ๆ ให้รุ่นหลังได้ชมความสวยงามเหมือนที่พวกเราได้เคยชม เกาะเชจู เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ทางธรรมชาติยุคใหม่ ที่ควรมาสัมผัสในความเป็นธรรมชาติด้วยตัวคุณเอง

          ท้ายนี้ต้องขอขอบคุณสถานที่ทางธรรมชาติสวย ๆ บนเกาะแห่งนี้ ขอบคุณเพื่อนร่วมทริปที่ทั้งปีนเขาด้วยกัน ลุยด้วยกัน เหนื่อยด้วยกัน ทริปนี้คงเป็นทริปในความทรงจำไปอีกนาน 555+

เกาะเชจู

          ใครมีคำถามสงสัยตรงไหนสามารถสอบถามได้ทาง message pantip หรือในเพจของผมก็ได้ เฟซบุ๊ก Nejuphoto ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านกระทู้รีวิวเที่ยวเกาะเชจูจนจบ

          "Perfection Jeju Island"




เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ท่องเที่ยวเกาะเชจู สัมผัสเพชรเม็ดงามแห่งเกาหลีใต้ อัปเดตล่าสุด 8 ตุลาคม 2564 เวลา 17:45:27 25,314 อ่าน
TOP