x close

แบ็คแพ็กไปเดินเที่ยว ปีนัง มาเลเซีย สัมผัสมนตร์เสน่ห์เมืองเก่า

ปีนัง มาเลเซีย


เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก คุณ high on dreams สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม และ เฟซบุ๊ก high on dreams :}

          คนที่กำลังวางแผนอยากไปเยือน "ปีนัง" ดินแดนที่มี Wall Art น่ารัก ๆ ให้ได้แชะภาพความประทับใจในอิริยาบถเก๋ ๆ หรือสัมผัสกับวิถีชีวิตและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอื่น ๆ อยู่ละก็...ตามมาเลยจ้า เพราะวันนี้เราหยิบเอาบันทึกการเดินทางของ คุณ high on dreams สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ที่ได้แบ็คแพ็ก คีบแตะ ไปเดินเล่นปีนังแบบชิล ๆ พร้อมกับเล่าเรื่องราวการเดินทางท่องเที่ยวสนุก ๆ ให้เราได้ติดตามกันค่ะ

          สำหรับ ปีนัง (Penang) อยู่บริเวณช่องแคบมะละกา ทางตอนใต้ของชายฝั่งทิศตะวันตกเฉียงเหนือประเทศมาเลเซีย หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เนื่องจากมีเมืองจอร์จทาวน์เป็นเมืองหลวงและเป็นศูนย์กลางที่สำคัญทางด้านเศรษฐกิจบนเกาะแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอันยาวนาน เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์อย่างหนึ่งก็ว่าได้ แถมจากการที่มันเป็นแหล่งขนส่งติดต่อกับชาวต่างชาติ ยังทำให้ปีนังเต็มไปด้วยวัฒนธรรมที่หลากหลายอีกต่างหาก (ดูเพิ่มเติมได้ที่ thaiembassy.org) เอาเป็นว่าอย่ารอช้าตาม คุณ high on dreams สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม ไปเที่ยวปีนังกันเลยดีกว่าค่ะ


 
+++++++++++++++++++++++++

          ปีนัง มันที่ไหนวะ ? บอกเลยว่าเพิ่งรู้จักปีนังไม่นาน ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามันเป็นยังไง อยู่ที่ไหน จนกระทั่ง 5 เดือนที่แล้ว พี่ชายเราส่งไลน์กระทู้หนึ่งในพันทิปให้ดู พร้อมกับบอกว่า "ไปไหม ? ปีนัง" ยังไม่ทันได้ตอบมันก็บอกต่อว่า "จองตั๋วให้ละนะ ไป 5 กลับ 7 กันยายน ลางานศุกร์วันเดียว"

          "ห๊ะ !?!?!?!" เดี๋ยว ๆ คือ "ไปไหม" นี่เป็นประโยคคำถามหรือบอกเล่าวะ ! ยังไม่ได้กดดูกระทู้รู้แต่เป็นที่เที่ยวก็เลย..."เออ ๆ ไปก็ไป"

          ที่มันชวนเพราะมันเห็นเราเขียนรีวิวตอนไปสังขละบุรีคนเดียวครั้งที่แล้ว แล้วมันอยากไปด้วย ไม่ใช่อะไร โถ่ ๆ ประกอบกับตอนนั้นตั๋วโปรฯ แอร์ลดราคามันเลยซื้อให้ กรุงเทพฯ-หาดใหญ่ 399 บาท ถูกกว่ารถทัวร์อีก กะว่าจะนั่งไปลงหาดใหญ่แล้วต่อรถไฟข้ามประเทศ

          ช่วงเวลา 5 เดือน ผ่านไปอย่างรวดเร็วจนเกือบลืมไปแล้วว่าต้องไป เที่ยวเยอะ งานเยอะ วุ่นวาย ไม่มีเวลา ได้มาหาข้อมูลจริง ๆ จัง ๆ 1 อาทิตย์ก่อนไป เพราะพี่ดันบอกว่าไปไม่ได้แล้วติดงาน !! ถ้าเป็นเมื่อก่อนจะรู้สึกกลัว ๆ นะที่ต้องไปคนเดียว แต่ตอนนี้เริ่มชินละ - -" เลยต้องวางแผนเองและคิดเอาเองว่าไป 3 วัน ไม่น่าจะพอ จึงแอบไปจองตั๋วกลับอีกวันหนึ่ง หาดใหญ่-กรุงเทพฯ ยอมทิ้งของฟรีสักหน่อย ไปต่างประเทศทั้งทีต้องเอาให้คุ้ม :}

ปีนัง มาเลเซีย

          และนี่คือข้อมูลเท่าที่เรารู้ก่อนไปปีนัง (ข้อหลัง ๆ เป็นสาระสำหรับคนกำลังแพลนวิธีเดินทางนะ)

          ปีนังอยู่มาเลเซีย - -"

          เป็นเกาะ ติดทะเล ติดภูเขา (ชิลแน่ ๆ)

          เป็นเมืองศิลปะเมืองหนึ่ง Wall Art ทั่วทั้งเมือง ร้านกาแฟเก๋ ๆ และ Art Gallery ชิค ๆ คูล ๆ (นี่แหละที่ต้องการ)

          เป็นเมืองเก่า ตึกเก่า สไตล์ชิโนโปรตุกีส เมืองมรดกโลก (เตรียมตัวเดินขาลากได้เลย)

          เมืองรักสงบ เมืองศาสนา ไม่ค่อยกินแอลกอฮอล์ (ทริปนี้ต้องโนแอลกอฮอล์สินะ)

          มีสะพานที่ยาวมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้...สวยด้วย

          มีเมืองหลวงชื่อจอร์จทาวน์ (เล็งที่พักย่านนี้แหละ)

          เมืองบาตู เฟอริงงิ (Batu Ferringhi) ห่างจากจอร์จทาวน์ 1 ชั่วโมง มีทะเลสวย หาดทรายขาว (ว่าจะไปนอนวันหนึ่ง)

          เวลาที่มาเลเซีย เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง

          เงิน 1 RM (ริงกิต) ~ 10 THB (บาท)

          จากสนามบินหาดใหญ่ต้องนั่งแท็กซี่ 300 บาท สองแถว 30 บาท เข้าเมืองไปขึ้นรถตู้ แถวโรงแรมอโลฮ่า KST Travel รอบ 09.30 น./12.30 น./14.00 น./17.00 น. ราคา 450 บาท

          มีรถไฟ มีเครื่องบิน ตรงจากกรุงเทพฯ ไปปีนัง

          สถานีรถไฟ สถานีรถบัส สถานีรถเมล์อยู่ใกล้กัน เดินได้ ป้ายชัด

          Jetty (เจ็ตตี้) คือชื่อท่าเรือที่ข้ามมาจากฝั่งบัตเตอร์เวอร์ธ เป็นจุดเริ่มต้นของรถเมล์ทุกสาย

          Komtar (คอมตาร์) เป็นตึกที่สูงสุด ศูนย์กลางเมืองจอร์จทาวน์ เป็นห้าง มีรถเมล์หลายสายผ่าน

          มีรถเมล์ฟรี !!!  มีแท็กซี่แพงมาก !!!

          สาย 204/502 ผ่าน Lebuh Chulia (ใกล้ที่พัก ที่กิน เมืองเก่า) สาย 101 ไปทะเลบาตูได้ 2.7 RM ~ 27 THB (รถเมล์หมด 5 ทุ่ม)

          แพลนทริปการไปต่างประเทศคนเดียวครั้งแรก เล่นเอาเหนื่อย เอาล่ะ...เตรียมตัวไปได้

ปีนัง มาเลเซีย

          #002 คืนก่อนวันเดินทาง...

          พี่ชายเราอยู่ดี ๆ ฮีก็เปลี่ยนใจไปด้วย - -" จริง ๆ ฮีหลอกให้เราแพลนแน่ ๆ ชิ แต่ฮีไม่รู้ว่าเราแอบทิ้งตั๋วกลับ แล้วไปซื้อตั๋วใหม่อยู่ต่ออีกวัน 55

          5 กันยายน 2557 เวลาเช้า ๆ ต้องแหกขี้ตาตื่นไปขึ้นเครื่อง ก่อนขึ้นเราโทรไปถามรอบรถตู้ที่หาดใหญ่ไว้ มีรอบ 12.00 น. และ 14.00 น. ซึ่งเราจะถึงสนามบินหาดใหญ่ 11 โมง แล้วต้องต่อสองแถวเข้าเมืองอีกประมาณ 1 ชั่วโมง อยากได้รอบเที่ยงแต่ก็ไม่กล้าจองกลัวจะเข้าเมืองไม่ทัน เลยบอกเขาไปว่าเดี๋ยวดูก่อน แต่คุณนางคิวรถตู้ก็โทรมากลับมาจัง

          "เนี่ยยยยย น้องจะจองไว้ก่อนไหมคะ เพราะมีคนเยอะ เดี๋ยวเต็มก่อน พี่จะได้ล็อกคิวไว้ให้" ก็บอกแล้วไงว่ากลัวไปไม่ทัน นางก็ย้ำ ๆ ให้ขึ้นแท็กซี่ไป 300 บาทเอง หะ ! 300 บาทเองงงงงงงจ้าาาาาา เพิ่มอีกร้อยหนึ่งคือบินกลับได้เลย แต่แล้วก็ฉุกคิดขึ้นได้ พี่ชายอยู่ทั้งคนกลัวอะไร ให้มันจ่ายค่ะ

          ป.ล. หรือจะเรียกทริปนี้เป็น Sponsor Review ดีนะ แต่จะให้เรารีวิวอะไรพี่เราวะ หนุ่มสปอต อายุ 27 ปี รวย ใจดี มีแฟนแล้ว หน้าตาก็...งั้น ๆ สู้น้องก็ไม่ได้ 5555 มันใช่เรื่องไหม ?

ปีนัง มาเลเซีย

          นาฬิกาที่สนามบินหาดใหญ่บอกว่าอีก 15 นาที รถตู้ปีนังจะออกละ

ปีนัง มาเลเซีย

          เนื่องจากทางพี่รถตู้เตือนมาว่าอย่าบอกแท็กซี่มิเตอร์นะว่าจะไปคิวรถตู้ปีนัง ให้บอกว่าไปโรงแรมอโลฮ่า เดี๋ยวพี่แท็กซี่จะหลอกพาอ้อม พี่ชายเราเลยเลือกไปแท็กซี่ลีมูซีนของสนามบิน 320 บาท เพิ่ม 20 บาท ตัดปัญหาแท็กซี่พาอ้อม เพื่อความรวดเร็ว ซึ่งจริง ๆ แล้วแท็กซี่ธรรมดาคงราคาไม่ถึงเท่านี้หรอก...มั้ง นี่สินะเอาเงินแก้ปัญหา - -"

ปีนัง มาเลเซีย

          #003 เรามาถึงเลทประมาณครึ่งชั่วโมง บริษัทรถตู้เราอยู่หน้าโรงแรมอโลฮ่าเลยค่ะ ซึ่งก็คือจุดที่เรายืนถ่ายอยู่นี่แหละ มีรถตู้คันหนึ่งจอดอยู่ มีรอขึ้นคนอยู่สองคน คือฝรั่ง 1 คน และพระสงฆ์อีก 1 รูป ไหนบอกคนเต็มคะ

ปีนัง มาเลเซีย

          #004 พี่รถตู้พาเรามาถึงด่านสะเดา จังหวัดสงขลา แอบเสียใจนิดหนึ่งเพราะเราอยากไปด่านปาดังเบซาร์ มันไม่ได้มีอะไรหรอก แค่ชื่อเพราะเฉย ๆ เลยอยากไป ฮ่า ๆๆๆ

          ผ่านด่านเรียบร้อยก็ขึ้นรถตู้ นั่งเคลียปัญหาชีวิตก่อนตัดจากโลกไร้โทรศัพท์ แล้วเงยหน้ามาเสพสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้มากที่สุด แต่แล้วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

          "น้องคะพี่ขอคุยกับคนขับหน่อยค่ะ" (เป็นสำเนียงใต้นะ) พี่ที่ท่ารถตู้โทรมาค่ะ คือพี่คนขับเขาลืมโทรศัพท์ไว้ที่ออฟฟิศ หลังจากนั้นโทรศัพท์เราก็กลายเป็นโทรศัพท์เขาไปเลย โทรมาหลายรอบมาก - -" กลับไปเอาโทรศัพท์ไหมพี่ ?

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #005 เรื่องราวของพี่รถตู้ยังไม่จบ ระหว่างนอนหลับอยู่บนรถเข้าเขตมาเลเซียสักพักก็เริ่มร้อน ๆ มาเลเซียมันร้อนกว่าไทยหรืออย่างไร ? แล้วมองไปที่พี่คนขับ พี่จะปิดแอร์ เปิดกระจก...เพื่อ ? สรุปว่าแอร์เสีย ไม่บอกสักคำ อากาศร้อนต้องเปิดกระจกรับลม นอนไม่หลับตลอดทาง 4 ชั่วโมง ตามนั้นค่ะ - -"

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #006 เราบอกพี่คนขับว่าจะลงฝั่งจอร์จทาวน์ ในใจนี่กะว่าจะได้นั่งรถข้ามสะพานปีนังแหละ แต่ที่ไหนได้คุณพี่ก็เอารถตู้ขึ้นเรือข้ามเกาะ - -" ความฝันข้ามสะพานที่ยาวที่สุดล่มสลายทันใด คงได้แค่มองอยู่ไกล ๆ T___T เอาน่า...ขึ้นเรือก็ได้เห็นอีกมุมแหละ...เนอะ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #007 ถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน หลังจากข้ามฝั่งมาแล้วเราจะเจอกับท่ารถเมล์ และขึ้นรถสาย 204 ไปลงที่พักอย่างสบายใจ แต่อิสองพี่น้องคู่นี้ลืมอะไรไม่ลืมดันลืมแลกเงิน !!!!! ทำให้ไม่สามารถขึ้นรถเมล์ได้ จึงต้องออกเดินทางด้วยสองเท้าหาที่รับแลกเงินไทย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ
         
ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

ปีนัง มาเลเซีย

          เดินเรื่อย ๆ

          #008 เดินไปเรื่อยจนมืด จนเมื่อย สรุปหลงทาง - -" ได้มาแลกเงินที่ร้านขายทัวร์ 2,000 บาท ได้เกือบ 200 ริงกิต (จำไม่ได้ว่าเท่าไร) แล้วหาทางเดินกลับไป Jetty อีกรอบเพื่อนั่งรถเมล์ จริง ๆ มาเปิดดู Map ทีหลังพบว่าตัวเองได้เดินตามทางไปที่พักได้ครึ่งทางแล้ว และเดินกลับไปขึ้นรถเมล์ในระยะทางอีกเท่าหนึ่ง เพื่อออออออออ

ปีนัง มาเลเซีย

          #009 เราพักที่ Red Inn Cabana เป็นโฮสเทลบนถนน Lebuh Leith จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่ามันอ่านว่าถนนอะไร อ่านเอาเองว่าเลบูเล่  - -" Lebuh น่าจะแปลว่าถนน เราจองที่นี่ไว้ก่อนมา 303 บาท ผ่าน www.booking.com ตอนนั้นยังคิดว่าตัวเองเดินทางคนเดียวอยู่ เลยจองโฮสเทลแค่เตียงเดียว ส่วนพี่ชายเราไม่ได้จองให้ มันมาถามเอาข้างหน้ารีเซฟชั่นเลย และมันจะเอาห้องเดี่ยว !! โอ๊ยยยยยย พี่ไม่ฟิลน้องเลย น้องอยากนอนห้อง Dorm Backpacker น่ะ เข้าใจปะ ๆๆๆ สุดท้ายห้องเดี่ยวเต็มเลยได้นอนห้อง Dorm ด้วยกัน ทั้งห้องมี 4 เตียง แต่มีคนนอนแค่เราสองคน - -" เรามาถึงตอนค่ำ ๆ นะ แต่ภาพเซตนี้เป็นของเช้าวันถัดมา

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #010 เก็บของเข้าที่พักได้เรียบร้อยก็เตรียมออกเดินสำรวจ (อีกแล้ว) ข้าง ๆ ที่พักเราเป็นฟู้ดคอร์ทใหญ่ ๆ เลย เรียกว่า Red Garden มีอาหารมาเลเซีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ฝรั่ง รวมถึงอาหารไทยด้วย เราเลยจัดไปอาหารมาเลเซียสุดฮอต ตามป้ายเลยค่ะ Lak sa (Famous Penang Local food) 4 RM

          หลักซา เป็นประมาณเส้น ๆ กับน้ำซุปปลา มีน้ำจิ้มใส่ช้อนมาด้วย แหมดูพิถีพิถันในการกิน ตรูจะซดน้ำชิมก็ไม่ได้ ต้องเทน้ำจิ้มก่อน ตอนแรกขอเขาเพิ่มปลาหมึกลงไปด้วยได้ไหม เขาดันไม่ให้ (หรือเราพูดไม่รู้เรื่องก็ไม่แน่ใจ) 5555 ถ้าจะให้อธิบายคำแรกที่ได้ลิ้มรส นี่มันกวยจั๊บ+แกงส้ม+ขนมจีนน้ำยาป่าใส่ปลาร้านี่หว่า !!!!! (ความคิดเห็นส่วนตัวนะ) เรากินคำเดียวแล้วจอดเลยค่ะ

ปีนัง มาเลเซีย

          เลยไปแจมเนื้อสะเต๊ะกับปลาหมึกผัดอะไรสักอย่างของพี่ค่ะ เป็นเมนูที่มันก็จิ้มเดา ๆ ของมันอร่อยกว่าของเราหลายเท่าเลย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #010-1 จบของคาวก็ตามด้วยของหวาน เราเดินไปต่อที่ถนนจูเลีย (Lebuh Julia) ไม่ไกลจากที่พักเท่าไร เจอร้านน้ำแข็งใสเรียกว่า ice kacang อร่อยดีนะ 2 RM

ปีนัง มาเลเซีย

          ตามด้วยของคาวอีกครั้ง เป็นร้านข้างทางที่น่าลองมากกกกกกกก ป้ายร้านเขียนว่า Lok Lok ขายเป็นไม้ ไม้ละคำ ราคาดูตามสีของไม้ ประมาณลูกชิ้นบ้านเราแหละ 5 บาท 10 บาท แต่ที่นี่มีลูกชิ้นหลายชนิดมาก มีหมูพะโล้ด้วย หอยแครง แมงกะพรุน ปลาหมึกกรอบ หมึกธรรมดา เลือกหยิบได้เลย บางอันต้องเอาไปลวกก่อน มีหม้อให้ลวกเองเดือดปุด ๆ หน้าเราเลย (เอ๊ะหรือ Lok Lok มันแปลว่าลวกลวก ?) เรายืนกินหน้าร้านนั้นแหละ มีน้ำจิ้มให้เลือกด้วยนะ ชิลลี่ซอสกับไทยชิลลี่ซอส สีเหมือนกันเด๊ะ แต่ไทยชิลลี่เผ็ดกว่า

          ด้วยความตื่นเต้นกับอาหารตรงหน้า หยิบกินไม่หยุด เผลอกินปลาหมึกดิบแบบไม่ลวกไปคำหนึ่ง หยึ๋ย -x- แต่ก็ประทับใจลวก...ลวกมากค่ะ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #011 จากการรีเสิร์ชข้อมูลก่อนมา เขาบอกว่าปีนังเป็นเมืองรักสงบ เป็นเมืองเคร่งศาสนา ไม่ใช่สถานที่ Night Life ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศไทย ปีนังก็เปรียบเสมือนอยุธยา...แต่เมื่อได้มาเจอกับตัว ไหนบอกสงบ ! ไหนบอกไม่แอลกอฮอล์ ! ร้านเหล้าเบียร์เพียบเลยจ้า Karee ริมถนนก็เพียบเช่นกัน

          ดีลีทภาพเมืองเก่าเงียบสงบในหัวแทบไม่ทัน แต่เราไม่ได้แอนตี้อะไรหรอก แค่มันไม่ใช่อย่างที่เรารู้มาแค่นั้นเอง แล้วก็ไม่ปฏิเสธด้วยว่าเราก็อยากนั่งดื่มนั่งชิลเหมือนกัน มันอาจเคยเป็นเมืองที่สงบจริง ๆ ก็ได้ จนกระทั่งมีนักท่องเที่ยวเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ตามกฎของอุปสงค์-อุปทาน มีความต้องการซื้อก็มีความต้องการขาย เราอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความสงบที่เคยมีเปลี่ยนไป แต่เราก็ไม่อยากให้คนพื้นถิ่นเสียรายได้เช่นกัน 555

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #012 สิบโมงเช้า วันที่ 6 กันยายน 2557 ตื่นมาแบบสดชื่น นอนอิ่มแต่กินไม่อิ่ม เพราะตื่นไม่ทัน Breakfast 5555 อาบน้ำแต่งตัวลงมารอพี่ที่ Lobby ข้างล่าง ระหว่างนั่งกินมาม่ามาเลเซียที่ซื้อมาลองตั้งแต่เมื่อวาน ก็มีลูกแม่บ้านมาเล่นด้วย ชื่อนิน่า นางบ้ากล้องมาก ส่วนฉันก็รักเด็กค่ะ ^____^ บอกลา Red Inn Cabana แล้วแพ็กกระเป๋าไปหาที่พักใหม่กัน

ปีนัง มาเลเซีย

          #013 แพลนวันนี้เราจะไป บาตู เฟอริงกิ (Batu Feringhi) รีเสิร์ชมาว่าเป็นเมืองติดทะเลที่ฮอตที่สุดของเกาะปีนัง สามารถเดินทางไปได้ด้วยรถเมล์สาย 101 ใช้เวลาเดินทางจากจอร์จทาวน์ประมาณ 1 ชั่วโมง เรากับพี่เดินออกไปรอรถเมล์หน้าเซเว่นฯ ถนนจูเลีย ว่าจะไปที่ Jetty เพราะที่นั้นเป็นจุดเริ่มต้นของรถเมล์ทุกสาย เมื่อไปถึงก็เห็นเลยว่ามีรถ 101 จอดอยู่ โอเค...ขึ้นเลยพี่ เวลาขึ้นรถเมล์ที่นี่จะต้องขึ้นที่ประตูหน้า แล้วต้องบอกกับคนขับว่าจะไปที่ไหน เขาก็จะบอกราคาเรา อีกอย่างคือรถเมล์ไม่มีทอนนะ เตรียมเงินหยอดตู้ให้พอดีด้วย พี่เราขึ้นปุ๊บก็บอกคนขับว่าจะไปบาตู ฮีคนขับบอกว่า "4 ริงกิต" อ้าวเฮ้ย ! ตรูโวยวายเลย ดูในพันทิปมาเขาบอกว่า 2.7 ริงกิต เองนี่ ส่วนพี่เรากำลังควักตังค์เพิ่มละ นางชอบใช้เงินแก้ปัญหา - -" พอกำลังจะหยอดไป 8 ริงกิต สำหรับ 2 คน พี่คนขับปัดมือออก "โน ๆๆๆ" แล้วหยิบตั๋ว 2.7 ริงกิต ยื่นมาให้ Batu Ferringhi 2.7 RM ฟังชัด ๆ อีกที "บาตู เฟอริงกิ" ที่ซึ่งพวกเราได้ยินเป็น "บาตู โฟ (4) ริงกิต !!!!" ฟังผิดเงิบบบบบบบเลยยยยยยยยทั้งพี่ทั้งน้อง 55555

          ป.ล. แล้วรถเมล์สาย 101 ที่เราขึ้นก็ขับผ่านจูเลีย ที่ที่เรารอรถเมล์ รู้อย่างนี้แค่ข้ามถนนมารออีกฝั่งก็ได้ละ ไม่ต้องนั่งไปเริ่มถึง Jetty

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #014 บาตูโฟริงกิต ! อยู่ทิศเหนือของเกาะปีนัง ระหว่างทางเป็นทางขึ้นเขาจะขี่มอเตอร์ไซค์มาก็ได้ แต่ยากอยู่ เลียบชายฝั่งทะเลส่วนใหญ่เป็นหิน มีคนเล่นน้ำบ้างประปราย และตลอดทางจะมีโรงแรมหรู ๆ คอนโดสูง ๆ แย่งวิวริมทะเลกัน เหมือนมันเป็นเมืองตากอากาศของไฮโซมาเลเซียยังไงไม่รู้ ต่างจากโซนเมืองเก่าลิบลับ (ก็แน่สิ - -") นั่ง ๆ นอน ๆ ไปแป๊บเดียวก็ถึง ถามว่ารู้ได้ยังไงว่าถึงบาตู ตอนนี้คงต้องเปิด Map ดูละ เพิ่งรู้ว่า Map ใน iPhone ใช้งานได้โดยไม่ต้องมีสัญญาณมือถือ ฮ่า ๆๆๆๆ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #015 เราลงแถวหน้าโฮสเทลที่เล็งไว้ ชื่อ Roomies Penang ซึ่งมันก็ห่างไกลจากย่านดาวน์ทาวน์นิดหน่อย แต่ก่อนเข้าที่พักเลยลงไปสำรวจทะเลสักหน่อย สูดหายใจแรง อาาาาห์~~~~กลิ่นเค็มโชยมา กลิ่นทะเลเหรอ ? เปล่ากลิ่นขยะ ! - -" ทะเลที่นี่เหมือนหัวหินเลย น้ำไม่ใสเท่าไร คนก็ไม่เยอะเท่าไร ร้าง ๆ อาจเพราะโซนนี้เป็นโซนนอกดาวน์ทาวน์ก็ได้ จริง ๆ ก็อ่านรีวิวมาบ้างว่าไม่ต้องมา มันไม่สวย ขยะเยอะ แต่อยากมาเห็นของจริง พอดีเป็นคนดื้อ ไม่เจอกับตัวเองก็ไม่เชื่อหรอก จริง ๆ ให้เราอยู่ก็อยู่ได้นะ เพราะเราอยากพักย่านใหม่บ้าง แต่พี่เราไม่อยากอยู่ นางเรื่องมาก 555

          เดินเล่น กินข้าว นั่งชิลสักพักแล้วก็นั่งรถเมล์กลับไปจอร์จทาวน์เลย อุตส่าห์แบกกระเป๋ามา - -"

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #016 กลับไปจอร์จทาวน์ต้องหาที่อยู่ใหม่ ก็เลยไปเช่ามอเตอร์ไซต์ร้านพี่แขก แถวเซเว่นฯ จูเลีย เขาบอกคันละ 25RM แต่เราต่อราคาได้เหลือคันละ 200 THB จะว่าเราขี้งกก็ได้นะ แต่เราแค่พูดลอย ๆ ว่า "20 RM ได้ไหม" ไม่ได้ตั้งใจ แต่ต้องมัดจำคันละ 100 RM พี่ให้เราจ่ายก่อน หมดตูดเลย - -"

          เราได้ที่พักใหม่แถว ๆ เดิมนี่แหละ ในย่านเมืองเก่า ชื่อ House of Journey เป็น Dorm ห้องละ 4 เตียง 37 RM ด้านล่างเป็นคาเฟ่ชิค ๆ คูล ๆ


ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #017 แล้วก็ออกไปขี่มอเตอร์ไซค์เล่นกัน เราไม่ค่อยได้ไปสถานที่ Landmark ของที่นี่สักเท่าไร แค่ได้นั่งรถกินลมชมเมืองเก่า เห็นอะไรที่ไม่เคยเห็นในไทย เห็นวิถีคนเมืองที่ต่างกันออกไป สำหรับเราแค่นี้มันก็เหลือเฟือแล้ว

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #018 ขับไปเจอ Walking Street ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามี ถนนคนเดินที่นี่มีของแฮนด์เมด มีดนตรีเปิดหมวก มีวาดภาพสด อาหารพื้นถิ่น และขนมแปลก ๆ ที่นักลองของชื่นชอบ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #019 การแอบถ่ายคนไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ขณะที่เราเดินเล่นแถวถนนคนเดิน ถ่ายบ้านถ่ายตึกไปเรื่อย เจอมุมไหนที่ชอบก็เดินดุ่ม ๆ เข้าไปถ่าย เราเดินไปเจอมุมหนึ่งพอกำลังจะเดินเข้าไปถ่าย ก็มีคนเข้ามานั่งในเฟรม แล้วก็มองเหวี่ยง ๆ มาที่เรา ตอนนั้นเราก็หยาบ ๆ หน่อยไม่ได้สนใจอะไร รีบกดถ่ายแล้วหันหลังเดินกลับไปถ่ายตึกถัดไป สักพักฮีก็ร้องงงงงงงงง !!!!! ดังมาก !!!!! เฮ้ย...ตกใจอะ ตกใจมาก คนแถวนั้นก็หันมามอง ฮีก็ยิ่งร้องดัง ร้องเรื่อย ๆ ไม่รู้ร้องอะไร ? ร้องทำไม ? หมายความว่าอะไร ? เรารีบจ้ำไปหาพี่ แล้วฮีก็ปากระป๋องแป้งเก่า ๆ มาใส่เรา (แต่ไม่โดนนะ) ยิ่งตกใจกว่าเดิม กลัวด้วย หลอน น้ำตาจะไหล  T_T เลยลากพี่ให้รีบ ๆ ไปจากตรงนี้ กลัวฮีจะเข้ามาชาร์จ

          หลังจากเราเดินออกมาไกลแล้วฮีก็ยังร้องอยู่และก็ยังนั่งอยู่ที่เดิม ร้องเหมือนคนที่ไม่ค่อยปกติอะ คือเราก็รู้สึกผิดนะแต่ไม่รู้ว่าเราทำอะไรผิด เราเดินมาเล็งถ่ายก่อนที่เขาจะมานั่ง หรือนี่มันพื้นที่ของเขา ? แต่พี่ไม่ได้เข้ามาห้ามแถมมานั่งได้มุมอีก หลังจากนี้เราเลยเริ่มหลอนกับการแอบถ่ายรูปคนไปเลย - -"

ปีนัง มาเลเซีย

          #020 เกือบจะมืดแล้ว ได้ยินเสียงละหมาดดังไปทั่วเมือง แต่สำหรับเราได้เวลาอาหารเย็นแล้วแหละ ฮี่ฮี่ ^^ ณ ตลาดหน้าเซเว่นฯ ถนนจูเลียที่เดิม วันนี้เป็นวันลองอาหารพื้นถิ่นข้างทางอีกครั้ง (ยังไม่เข็ด) เราลองสั่ง Curry Mee ดู เพราะแอบเห็นหอยแครงในชามที่เขากำลังจะเอาไปเสิร์ฟ มันจะต้องดีมากแน่ ๆ เราชอบกินหอยเป็นชีวิตจิตใจ จินตนาการไปว่าที่นี่ติดทะเลหอยคงจะสดมาก 555 พอได้ชิมก็ตามนั้นแหละ บะหมี่น้ำซุปแกงกะหรี่ซีฟู้ด แซ่บ ๆ 3 RM เอง

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          ในส่วนของพี่เราลองร้านข้าง ๆ กัน เป็นบะหมี่เกี๊ยวหมูแดงขลุกขลิกซุปดำ มันเหมือนบะหมี่แห้งนะ แต่มันไม่แห้ง จะว่าบะหมี่น้ำมันก็ไม่ใช่อีก ก็เลยเป็นน้ำขลุกขลิก ฮ่า ๆๆๆ อันนี้เราว่าพอถูไถ ชายสี่อร่อยกว่า

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          เวลาเรามากินที่นี่จะมีโต๊ะให้นั่งอยู่ข้างหลัง นั่งปุ๊บจะมีเด็กเสิร์ฟจากร้านน้ำมาขายน้ำทันที ถ้าไม่ซื้อไม่ให้นั่ง ! เวรละ...คิดไม่ออกจะกินน้ำอะไร ถ้าทุกอย่างจะ 2 RM ขนาดนี้ เอาน้ำสับปะรดละกัน แต่แล้วฉันก็ได้น้ำแอปเปิลมา - -"

          #021 เคยอ่านมาว่ามาปีนังห้ามพลาด Gurney Drive มันเป็นฟู้ดคอร์ทเอาท์ดอร์ใหญ่ ๆ แห่งหนึ่ง เลียบทะเล หลังห้าง Gurney ชื่อมันเท่เลยอยากลอง อีกอย่างที่นี่ใน Map ก็ไม่มีนะจ๊ะ เราถามพี่ที่โฮสเทลเอา ขับมอเตอร์ไซค์จากเซเว่นฯ จูเลียไปประมาณ 10 นาที ระหว่างทางเป็นถนนเลียบทะเลที่ไม่มีหาด มีติดไฟประดับสวยงาม มีลานเอาไว้ให้คู่หนุ่มสาวมานั่งจีบกันใบบรรยากาศชิล ๆ อร้ายย~~~

          พอมาถึงพบว่ามันก็คือตลาดโต้รุ่งใหญ่ ๆ นี่เอง มีอาหารละลานตาแต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนดี เลยลงเอยด้วยแฮมเบอร์เกอร์กับไทเกอร์เบียร์ - -" เป็นเพราะพวกเราเสี้ยนเนื้อกันค่ะ ฮ่า ๆๆ อยากกินเนื้อวัว

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #022 นั่งดื่มอยู่อีกสักพัก เห็นโต๊ะข้าง ๆ ถือชามน้ำซุปกระดูกอย่างใหญ่มาวางที่โต๊ะ มันไม่ใช่น้ำซุปกระดูกธรรมดานะ มันคือโคตรกระดูก กระดูกใหญ่มากจนล้นชาม จะว่าอิ่มก็อิ่มแต่มันก็อยากลอง เลยเดินไปหาร้านต้นฉบับที่มาของซุปชามนี้ ได้ความว่า SUP GEAR BOX ชามละ 20 RM !!! 200 บาท นี่กลับไปกินบะหมี่จูเลียได้เกือบ 7 ชาม เลยนะเว้ยยยย อีกอย่างเงินที่เราสองคนแลกมาก็ใกล้จะหมดแล้ว แต่เหตุผลใด ๆ ก็ไม่มีความหมายเมื่อความอยากกินมันครอบงำ

          โดนไป...ฟินจริงอะไรจริง สำหรับคนชอบกินเนื้อ น้ำซุปร้อน ๆ หอม ๆ กับเนื้อติดกระดูกที่ร้านเลาะออกใส่ซุปให้ตักกินง่าย ๆ มีหลอดไว้ดูดไขกระดูกมากิน ข้น ๆ มัน ๆ แต่เรากินไขเพียว ๆ ไม่ได้ ต้องเอาน้ำซุปหยอดเข้าไปคน ๆ ผสมกันละค่อยกิน ค่ำคืนนี้จบลงด้วยซุปโคตรกระดูกวัวชามนี้เอยยยยย.....

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #023 เช้าวันรุ่งขึ้นพี่เราต้องกลับ ส่วนเราจะอยู่ต่อ (แอบโดนด่านิดหนึ่งที่ทิ้งตั๋วเครื่องบิน แต่ทำยังไงได้ไม่อยากกลับ - -") แต่ก็แอบโหวงเหวงอยู่เหมือนกัน บ๊ายบายพี่ชาย...หลังจากนี้เราต้องออกโรงเองซะแล้ว

          เราออกไปส่งพี่ที่หน้าโฮสเทล 9 โมงเช้า แล้วกลับมากิน Breakfast ฟรี แล้วเข้าไปนอนต่อ - -"

ปีนัง มาเลเซีย

          #024 ตื่นมาอีกที 11 โมง นางจะขี้เกียจไปไหน แล้วนางก็เพิ่งนึกได้ว่าวันนี้มีแพลนต้องไปคืนมอเตอร์ไซค์ตอนบ่าย 2 ต้องไปดูรอบรถกลับ ต้องออกไปหาที่พักใหม่ ต้องไปปีนังฮิลล์ ต้องไป Hin Bus Depot Gallery ต้องไป Camera Museum เราเช็กเอาท์ออกจาก House of Journey แล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปหาที่พักใหม่ ที่พักที่เราเล็งไว้ก็ดันเต็ม ไปอีกที่ก็เจอรูมเมทชายฝรั่งอ้วนนอนถอดเสื้อ (อยู่ดี ๆ ก็กลัวขึ้นมา) ไม่เอา ๆ มาจบที่ Ryokan Chic Hostels เพราะขี้เกียจหาแล้ว ตกลงเอา Dorm เตียงละ 30 RM เราเตรียมบัตรเครดิตจะจ่าย ดันไม่รับบัตรเครดิต แม่จะกรี๊ด ๆๆๆ เลยควักเงินทั้งหมดที่มีจ่ายไป แถมขอค่ามัดจำกุญแจอีก 30 RM

          หะ !!! ลืมคิดเรื่องค่ามัดจำไปเลย เหลือแต่เงินไทย 300 บาท แทนได้ไหม ? เรียกว่าหมดตูดอะค่ะตอนนี้

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #025 เราฝากของไว้ที่โฮสเทลแล้วออกไปหาที่กดตังค์ บอกเลยว่าที่นี่ไม่ได้กดตังค์ง่าย ๆ นะ ตู้ ATM หน้าเซเว่นฯ ก็ไม่มีเหมือนบ้านเราด้วย ต้องไปกดที่ธนาคาร เราก็ขับวนหาธนาคารอยู่นาน น้ำมันก็จะหมดอะไร...ตอนนี้เนี่ย ในที่สุดก็เจอธนาคาร CIMB ที่ตึกคอมต้า และในที่สุดอีกทีนางก็พบว่าลืมเอาบัตรมาาาาาาา !! โอ๊ยยยยยยยย...อยากจะร้องไห้ ทำไมนางเป๋อได้ขนาดนี้ T___T

          เซ็ง ! บอกเลยตอนนั้นเซ็งมาก ไม่กดมันแล้วขับกลับไปกลับมาเดี๋ยวก็หมดเวลาพอดี ปลอบใจตัวเองว่า "เงินมันไม่ได้สำคัญอะไรกับชีวิตขนาดนั้นหรอก" (พูดปนน้ำตา 555) แล้วออกเดินทางต่อไป ตามหาที่ที่ฉันจะมีความสุขได้...โดยไม่ต้องใช้เงินนี่แหละ

          Hin Bus Depot Gallery เป็นสตูดิโอส่วนตัวของ Ernest Zacharevic ศิลปินที่วาดภาพบนผนังของจอร์จทาวน์ ซึ่งกลายเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว เสพสุขให้เต็มที่ เดิน นั่ง นอน ตีลังกา หรืออะไรก็ได้ไม่มีคนเห็น รอยยิ้มปรากฏลงบนหน้าฉันอีกครั้ง เพราะ Gallery นี้ "เข้าฟรี" :)

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #026 มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะมาเที่ยวคนเดียว แล้วอยากมีรูปตัวเองเนี่ย ตั้งเวลากล้องไอโฟนเซลฟี่ นอกจากจะได้แบล็คกราวน์หัวขาดแล้วยังวิ่งไปเก๊กไม่ทันอีก...เฮ้อ


          #027 เขาบอกต้องเติมน้ำมันให้เต็มถังก่อนเอามอเตอร์ไซค์มาคืน เราขุดค้นกระเป๋าทุกซอกทุกมุมเจอเหรียญและแบงค์รวมกันได้ 4 RM ปั๊มน้ำมันที่นี่เป็นแบบเติมเองนะ แต่เราเติมไม่เป็นเลยต้องไปเรียกเขามาเติมให้ 4 ริงกิต สุดท้ายยยยยยยย จากน้ำมันเกลี้ยงถังเติม 40 บาท ก็ล้นแล้วจ้า ที่นี่น้ำมันถูกจริง ๆ หลังจากคืนมอเตอร์ไซค์เราจะได้เงินมัดจำมา 100 RM เป็นไทยละ !! เอาไปซื้อตั๋วรถกลับ

ปีนัง มาเลเซีย

          #028 บอกเลยว่าวันนี้เป็นวันไร้สาระของเรามาก นั่งรถเมล์ฟรีไปตึกคอมต้าพยายามจะกดเงินอีกครั้งแต่ก็ไม่สามารถ ไม่รู้ทำไมกดไม่ได้หรือกดไม่เป็นก็ไม่รู้ - -" ปลง กินเคเอฟซีมันซะเลย

ปีนัง มาเลเซีย

          #029 จริง ๆ เที่ยวคนเดียวบางทีก็รู้สึกดี บางทีมันก็ควบคุมตัวเองไม่ได้ เราเป็นคนขี้เกียจ เอื่อย เฉื่อย ตื่นก็สาย พอไม่มีคนมาจำกัดเวลาอะไร ๆ มันก็เลยช้าไปซะหมด เรานั่งรถเมล์ไปต่อเรือที่ Jetty เพื่อเข้าฝั่งบัตเตอร์เวอร์ธ ไปดูรอบรถไฟกับรอบรถบัสขากลับ แล้วเดินเล่นเรื่อยเปื่อย ดูนาฬิกาอีกทีนี่เกือบหมดเวลาไปอีกวันละ - -"

          มีรถไฟเข้ากรุงเทพฯ รอบเดียว คือ บ่าย 2 (110 RM) ส่วนรถบัสไปหาดใหญ่มีประมาณ 4 รอบ แต่เราจำไม่ได้ เราเลือกรอบบ่าย 2 (30 RM)

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #030 เนื่องจากทริปนี้เงินหมด จึงต้องตัด "ปีนังฮิลล์" ออกไปแล้วเปลี่ยนมาเดินเล่นรอบเมืองแทน ไปปีนังฮิลล์ต้องเสีย 30 RM สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จะได้นั่งรถไฟรางขึ้นไปบนยอดเขาและสามารถเห็นวิวเมืองปีนังได้ทั้งเมือง ว่ากันว่าสวยงามมากก

          "มาปีนังถ้าไม่ได้ขึ้นปีนังฮิลล์ถือว่ามาไม่ถึง !!!" รู้สึกเสียดายจนถึงทุกวันนี้

          ในเมื่อ Bird Eye View ไม่ไหว ก็เป็น Worms Eye View แทนละกัน ว่าแล้วก็ไปเดินเล่นหมู่บ้านชาวประมง แถวนี้มีบริการสปีดโบ๊ทเที่ยวเกาะด้วยนะ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #031 Camera Museum คนรักกล้องคงจะชอบที่นี่นะ มันอยู่ซอยเดียวกับที่พักเราเลย มี 2 ชั้น ชั้นแรกเป็นแกลลอรี่กับคาเฟ่ ส่วนชั้น 2 เป็นส่วนของ Museum ซึ่งเราไม่ได้ขึ้นไปค่ะ เพราะอะไรน่าจะรู้ ฮ่า ๆๆๆ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #032 เดินเล่น Love Lane ซอยนี้ชื่อน่ารัก มีโฮสเทล มีร้านกาแฟ ร้านจักรยาน บาร์เยอะและดี ^__^ ที่นี่การเดินทางสะดวกมาก จริง ๆ ถ้าจะอยู่แค่โซนเมืองเก่ามอเตอร์ไซค์ไม่จำเป็นเลย มันเดินถึงกันได้หมด รถเมล์ก็มี รถฟรีก็มี สามล้อก็มีนะ แต่เรายังไม่ได้ลอง สังเกตนะพวก Wall Art ที่นี่จะมีแบบวาด ๆ และก็แบบเหล็กดัด แบบวาดแต่ละงานจะมีความหมายของมันเอง ซึ่งในโปรเจคท์แรกของ Ernest คือโปรเจคท์ Mirrors George Town ตอนนี้ในย่านเมืองเก่า มีหลากหลายศิลปินเข้ามาวาดเพิ่มเรื่อย ๆ ส่วนที่เป็นเหล็กดัดแต่ละอันถ้าตั้งใจอ่านดี ๆ มันคือเรื่องเล่าประวัติของปีนังแบบขำ ๆ นี่เอง

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #033 พอเริ่มมืดก็กลับมาที่โฮสเทล ทักทายรูมเมท 2 คน เป็นนักศึกษาอยู่กัวลาลัมเปอร์ แล้วทั้งสองฮีก็ชวนเราไปกินข้าวด้วยกัน ฮีเปิดรูป Steamboat ให้ดู ว่าเราจะไปกินไอ้นี่กันนะ เป็นบุฟเฟ่ต์กระทะหม้อไฟอยู่ตรงกลาง มีทุกอย่างที่อยากกิน ซีฟู้ด กุ้ง หอย ปู ปลา หมู เนื้อ ติ่มซำ จัดเต็มเลยเจ๊ สารภาพเลยตอนนั้นเห็นภาพแล้วหิวมาก โดยไม่แคร์เงินในกระเป๋า เดินตามต้อย ๆ เหมือนมีแม่เหล็กดูด พอถึงร้านเราก็ถล่มเลยจ้า เนื้อเกาหลีมาเลเซีย เฮ้ย...สรุปเกาหลีหรือมาเลเซียฮะ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #034 ตื่นสาย ๆ มาเจอกับห้องที่ว่างเปล่า เพื่อนมาเลเซียเรากลับไปแต่เช้าแล้ว เพราะพวกฮีมีเรียน ฮีแอบวางพวงกุญแจปีนังเล็ก ๆ ไว้บนหัวนอนตอนเราหลับด้วย ฮ่า ๆๆ น่ารัก ๆ สักพักมีเสียงกุก ๆ กักอยู่ใต้เตียง (เราอยู่เตียงบน) เลยก้มลงไปดู อุ้ย ! เจแปนนิสกาย นึกว่าอยู่ห้องคนเดียวมาตั้งนาน เราทำความรู้จักกันสักพัก เป็นนักศึกษามาร์เก็ตติ้งปีสุดท้ายที่โตเกียว กำลังตระเวนเที่ยวทั่วตะวันออกเฉียงใต้ และก็กำลังจะไปเที่ยวประเทศไทยต่อ นั่งรถไฟจากที่นี่ไปกรุงเทพฯ เราก็อยากนั่งรถไฟนะ เดินทาง 22 ชั่วโมง ถึงหัวลำโพงเที่ยงวันถัดมา แต่เราไม่ได้มีเวลาขนาดนั้น

          ไปกินข้าวกัน เขาบอกมามาเลเซียห้ามพลาดข้าวมันไก่ แล้วเจอกันที่ไทยแลนด์นะตัวเธออออออออ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #035 มาถึง Bus Station ก่อนเวลาครึ่งชั่วโมง นั่งรอนานนนนนนจนกลัวว่าตั๋วที่ซื้อมาเป็นตั๋วปลอม เดินไปถามแล้วถามอีก เหมือนนักท่องเที่ยวตื่นตูม จนมีลุงคนหนึ่งเดินมาถาม พูดไทยด้วย เพราะเห็นว่าเราไปหาดใหญ่

          "บ้านอยู่หาดใหญ่เหรอ"
          "ใช่ค่ะ" (หลอก ๆ)
          "เออ ลุงก็เคยอยู่หาดใหญ่มาก่อนนะ 10 กว่าปีที่แล้ว แต่เดี๋ยวนี้ลุงไปไม่ได้"
          "อ้าวทำไมล่ะคะ ?"
          "ลุงติดคุกแล้วเขาห้ามเข้า"
          "!?!?!?!?!"

          ต้องการอะไรจากหนู !?!?!? บอกหนูทำไม เราลุกขึ้นแล้วทำเป็นเดินไปซื้อน้ำ แล้วสิงสถิตที่หน้าร้านน้ำจนเขาเรียกไปขึ้นรถ

          ลุงคนนี้แหละค่ะ

ปีนัง มาเลเซีย

ปีนัง มาเลเซีย

          #036 ใช้เวลาเกือบ 5 ชั่วโมง จากปีนังถึงหาดใหญ่ ถึง 6 โมงเย็นเวลาไทย และต่อสองแถวไปสนามบินอีก 1 ชั่วโมง ถ้าจะนั่งแท็กซี่ หรือรถกระป้อ หรือมอเตอร์ไซค์ เรียกเก็บเรา 300 บาทหมด แพง...แพงเว่อร์ แต่ถ้ารีบก็จัดเลยนะ เราชิล ๆ เลยเดินสุ่มตามหาสองแถวสนามบิน 30 บาท นานพอสมควร จนได้กลับบ้านอย่างปลอดภัยสบายดี

ปีนัง มาเลเซีย

          #037 ทริปครั้งนี้ไม่มีอะไรมาก มีแต่กินกับเดิน ปีนังใหญ่กว่าที่เราคิดไว้มาก หลังจากกลับมาถึงรู้ว่ามีหลายที่มากที่อยากไปแต่ไม่ได้ไป ทำอะไรอยู่ตั้ง 4 วัน - -"

          ขอบคุณพี่ชายแท้ ๆ สำหรับตั๋วเครื่องบินไป-กลับ (แต่ขากลับไม่ได้ใช้) ขอบคุณเพื่อนร่วมกิน สองหนุ่มนักศึกษานิติศาสตร์ใจดีจากกัวลาลัมเปอร์ ขอบคุณเพื่อนร่วมทางคนสุดท้าย ฮิโรมุ แล้วเราก็นัดกันไปดูคอนเสิร์ตแทททู คัลเลอร์ ที่ไทย

          ลาก่อนนะ...ปีนัง ใกล้ ๆ เองเดี๋ยวกลับมาใหม่เมื่อไหร่ก็ได้ บ๊ายบาย

          เงินที่เหลือทั้งหมด (197 THB) และของที่ระลึกจากมาเลเซีย ถามว่าอ่านออกไหม ?

ปีนัง มาเลเซีย

          ถ้าอยากรู้อะไรเพิ่มเติมถามเราในนี้ได้นะคะ

          https://www.facebook.com/highondreams

          หรือทริปที่เราไปเที่ยวมาเมื่อก่อนหน้านี้

          ผู้หญิงกะโหลกกะลา หยิบกล้องสะพายเป้ เที่ยวเกาะช้าง \'อะโลน\' แต่ไม่ ‘โลนลี่’ :}

          แก ๆๆ BACKPACK นั่งรถไฟฟรี ไปดำน้ำเกาะเต่ากันมั้ย :}

          สะพายเป้ นั่งรถไฟฟรี ลุยสังขละบุรี แบบชิค ๆ คูล ๆ :}

ปีนัง มาเลเซีย

          สำหรับคนที่ถามเรื่องค่าใช่จ่ายปีนังนะคะ อาจมีเลขที่หลงลืมไปบ้าง แต่มันก็ประมานนี้แหละ แหะ ๆ เรากดเงินสดไป 3,000 บาท หมดเกลี้ยงค่ะ !!! (ยังไม่รวมตั๋วเครื่องบินกับโรงแรมแรกนะ) บางอย่างที่พี่เลี้ยงเราก็คิดราคาหารครึ่ง เช่น ค่าแท็กซี่และเช่ามอเตอร์ไซค์ ลองเอาไปคำนวณค่าใช้จ่ายตัวเองคร่าว ๆ ดูนะคะ

          เที่ยวให้สนุกเด้อ ^_^

          ป.ล. ในส่วนเครื่องดื่มเราไม่รวมค่าแอลกอฮอล์นะ

ปีนัง มาเลเซีย



เรื่องที่คุณอาจสนใจ
แบ็คแพ็กไปเดินเที่ยว ปีนัง มาเลเซีย สัมผัสมนตร์เสน่ห์เมืองเก่า อัปเดตล่าสุด 2 เมษายน 2567 เวลา 16:07:19 132,574 อ่าน
TOP